ควรเก็บสเต็มเซลล์ของลูกดีไหม?
เกร็ดความรู้

เลือดที่อยู่ในสายสะดือและรกหลังจากลูกเกิดมาจะมีเซลล์ชนิดพิเศษที่สามารถรักษาโรคร้ายแรงได้
คุณสามารถเลือกเก็บสเต็มเซลล์เหล่านี้เอาไว้เพื่อนำมาใช้ภายหลังเพื่อรักษาโรคลิวคีเมีย โรคโลหิตจางและโรคหายากอื่น ๆ อย่างไรก็ตามผู้บริจาคมักไม่ได้ใช้งานจริงอย่างที่เชื่อกัน
ทำไมสเต็มเซลล์จึงมีความพิเศษ?
สเต็มเซลล์ถูกมองว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากเพราะสามารถนำมาแปลงเป็นเซลล์ประเภทไหนในร่างกายก็ได้
ข้อจำกัดของสเต็มเซลล์
สเต็มเซลล์มักถูกนำมาใช้เพื่อช่วยบุคคลอื่นนอกจากตัวผู้บริจาคเอง ซึ่งค่อนข้างขัดกับความเชื่อที่คนส่วนใหญ่เชื่อกัน ดังนั้นหากคุณตัดสินใจจะเก็บสเต็มเซลล์ของลูกไว้ ก็มีโอกาสที่จะได้นำมาใช้เพื่อช่วยบุคคลอื่นในครอบครัวมากกว่า ในการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้สเต็มเซลล์ของตนเอง (Autologous stem cell transplant) หรือการใช้สเต็มเซลล์ที่แข็งแรงของตนเองมาปลูกถ่ายนั้นจะใช้ได้กับโรคบางอย่างเท่านั้น
ประเภทของสเต็มเซลล์ 2 ประเภท
สเต็มเซลล์แบ่งเป็นสองประเภท คือสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ (embryonic stem cells) และสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย (adult stem cells)
สเต็มเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ (embryonic stem cells): สเต็มเซลล์ประเภทนี้จะมีหลายสรรพคุณ หมายถึงสามารถนำมาแแปลงเป็นเซลล์อื่น ๆ ได้มากกว่า 1 ประเภท
สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย (adult stem cells): สเต็มเซลล์ประเภทนี้มาจากเนื้อเยื่อที่เติบโตสมบูรณ์แล้ว เช่นเซลล์จากสมอง ผิวหนัง หรือไขกระดูก สเต็มเซลล์ประเภทนี้จะมีโอกาสแปลงเป็นเซลล์ได้แบบเดียว ตัวอย่างเช่นสเต็มเซลล์ที่มาจากหัวใจจะใช้เป็นเซลล์ที่เกี่ยวกับหัวใจเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สเต็มเซลล์ที่โตเต็มวัยสามารถนำไปผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มีคุณสมบัติคล้ายสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ได้
สเต็มเซลล์ใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
ปัจจุบันสเต็มเซลล์มักถูกนำมาใช้เพื่อรักษาโรค 5 ประเภทดังนี้:
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลิวคีเมีย)
- โรคไขกระดูกบกพร่อง
- ความผิดปกติของเลือดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- โรคระบบเผาผลาญในร่างกายบกพร่องซึ่งเกิดจากพันธุกรรม
ใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคลิวคีเมียในเด็กได้หรือไม่?
ในกรณีที่การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกในการรักษา แพทย์มักจะไม่ได้ใช้สเต็มเซลล์ของตัวเด็กเอง เนื่องจากเซลล์มะเร็งอาจอยู่มาตั้งแต่เด็กเกิด ดังนั้นแพทย์จะใช้สเต็มเซลล์จากญาติหรือพี่น้องแทน
ธนาคารเลือดจากรกคืออะไร?
เลือดที่อยู่ในสายสะดือของเด็กจะมีสเต็มเซลล์อยู่ ซึ่งสามารถนำมาใช้แปลงเป็นเซลล์เม็ดเลือด หรือเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดไหนก็ได้ ผู้ปกครองสามารถเลือกเก็บเลือดนี้ไว้ในธนาคารเลือดเพื่อใช้ในอนาคต โดยมีธนาคารเลือดให้บริการทั้งของรัฐและเอกชน ปัจจุบันจะแนะนำให้บริจาคให้รัฐมากกว่า
ควรเก็บสเต็มเซลล์ของลูกไว้ในธนาคารดีไหม?
หากครอบครัวของคุณมีประวัติการเป็นโรคกลุ่มที่สามารถใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาได้ สเต็มเซลล์ของลูกก็อาจถูกนำมาใช้เพื่อช่วยชีวิตพี่น้องหรือสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตามก็มีข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ว่าการเก็บสเต็มเซลล์ของลูกอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเก็บสเต็มเซลล์
จากผลการวิจัยของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติประเทศอังกฤษพบว่า การเก็บสเต็มเซลล์กับบริษัทเอกชนอาจมีข้อเสียดังนี้
- โอกาสในการนำมาใช้มีน้อยมาก (ประมาณการอยู่ที่ 1 ใน 1,400 ถึง 1ใน 20,000)
- เลือดจากสายสะดืออาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น เด็กที่เป็นมะเร็งเม็ดในเม็ดเลือดอาจมีเซลล์มะเร็งอยู่ในเลือดสายสะดือมาตั้งแต่เกิดแล้ว
- ความเสี่ยงในการเก็บเลือด การเก็บเลือดจากสายสะดือในขณะที่รกยังติดอยู่ในตัวแม่อาจไปรบกวนกระบวนการคลอดได้ หากเก็บเลือดหลังจากนั้น เลือดอาจปนเปื้อนแบคทีเรียหรือของเหลวอื่น ๆ จากแม่ได้
- ธนาคารเลือดจากรกที่แสวงหากำไรมักกล่าวอ้างเกินจริง โดยบอกว่าสามารถใช้เลือดจากสายสะดือเพื่อรักษาเบาหวานหรือโรคอื่น ๆ ซึ่งเป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น
รับรองโดย:
พญ.วรรวดี ทรัพย์มี ปัญญากาศ (สูตินรีแพทย์) (6 มีนาคม 2019)