เปรียบเทียบ 5 เครื่องฟอกอากาศ ยอดนิยม สู้ฝุ่น PM 2.5

การเกิดขึ้นของฝุ่น PM 2.5 ที่นับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เครื่องฟอกอากาศเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีติดบ้านไว้ เพื่อช่วยลดการสูดดมฝุ่นละอองอนุภาคเล็กที่อาจเสี่ยงทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้
วันนี้มะลิได้รวบรวม 5 เครื่องฟอกอากาศยอดนิยม ที่ราคาหลากหลายตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นมาให้คุณแม่ได้ลองเลือกกัน ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นอย่างไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลย
5 เครื่องฟอกอากาศ ยอดนิยม สู้ฝุ่น PM 2.5
- Xiaomi Mi แบรนด์ที่ได้รับผลโหวตมากที่สุดจากแม่ ๆ ในคลับมะลิ ราคาไม่เกิน 4,000 บาท เหมาะกับพื้นที่ 25-43 ตร.ม. เสียงเงียบเพียง 35.8db
- Smart Air เครื่องฟอกอากาศสไตล์มินิมอล ขาไม้บีชแท้จากยุโรป ราคาไม่เกิน 4,000 สำหรับพื้นที่ขนาด 40 ตร.ม
- Philips ราคาไม่เกิน 3,500 บาท ฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายใน 17 นาที นอกจากนี้ เหมาะใช้ฟอกอากาศสำหรับห้องขนาด 44 ตร.ม
- Dee Taxt เครื่องฟอกอากาศราคาย่อมเยา ไม่เกิน 500 บาท เหมาะสำหรับห้องขนาด 32 ตร.ม. สามารถตั้งเวลาปิดได้
- Dyson เครื่องฟอกอากาศ ตัวเครื่องหมุนส่ายได้ 350 องศา ช่วยกระจายอากาศที่กรองแล้วไปทั่วทั้งห้อง เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานขนาด 27 ตร.ม. ปรับความแรงลมได้ 10 ระดับ
1. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi
คุณแม่ที่กำลังมองหาเครื่องกรองอากาศสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนของลูกน้อยในงบไม่เกิน 4,000 บาท Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Lite อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ โดยเป็นเครื่องกรองอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จากผลโหวตของคุณแม่ในคลับมะลิ เพราะเสียงรบกวนต่ำ 33.4db เหมาะกับพื้นที่ 25-43 ตร.ม. สามารถกรองได้ทั้งฝุ่น PM2.5 ฝุ่นละอองต่าง ๆ ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ กลิ่นสัตว์เลี้ยง และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ โดยใช้เวลาเพียงอึดใจเดียวในการเปลี่ยนอากาศที่แย่ให้เป็นห้องที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์
จุดเด่น:
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 230 ลบ.ม./ชม.
- ไส้กรองเคลือบสารป้องกัน และกำจัดแบคทีเรียได้ถึง 99.99%
- เสียงในการเงียบเพียง 35.8db ให้ลูกน้อยนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม
- หน้าจอแสดงผลแบบ LED สามารถบอกค่าปริมาณฝุ่น หรือมลพิษในอากาศ, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้องได้แบบละเอียด
- สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mi Home เพื่อดูสถานะการใช้งาน ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่อง หรือล็อกการใช้งานได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว
ราคา: ประมาณ 3,990 บาท
![]() | Xiaomi Mi Air Purifier |
2. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air
สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่กำลังมองหาเครื่องกรองอากาศสไตล์มินิมอล เรียบหรู ดูดี ในงบไม่เกิน 4,000 บาทสำหรับพื้นที่ขนาด 40 ตร.ม. เราขอแนะนำเครื่องกรองอากาศฝุ่น PM 2.5 จากแบรนด์ Smart Air รุ่น The Sqair ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้ พร้อมช่วยฆ่าไวรัส แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับความเร็วได้ถึง 3 ระดับ มาพร้อมขาเครื่องกรองที่ผลิตจากไม้บีชแท้จากยุโรป จึงไม่ล้มง่าย ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อเจ้าตัวเล็ก เสียงเงียบเพียง 23-52 เดซิเบล ไม่รบกวนลูกน้อยตอนหลับ
จุดเด่น:
- กรองอากาศในห้องขนาด 40 ตร.ม. ใน 25 นาที
- ดีไซน์มินิมอล เพิ่มความหรูหราด้วยขาไม้บีชแท้จากยุโรป
- เงียบ ไร้เสียงรบกวน มีความดังสูงสุดเพียง 52 db หรือเท่ากับเสียงฝนตก
- แผ่นกรองใช้ได้นานกว่า 6 เดือน
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 315 ลบ.ม./ชม.
ราคา: 3,990 บาท
![]() | Smart Air Purifier |
3. เครื่องฟอกอากาศ Philips
หากบ้านไหนมีสมาชิกป่วยบ่อย และต้องการเครื่องฟอกอากาศในงบไม่เกิน 3,500 บาท มะลิขอแนะนำ Philips Air Purifier เครื่องฟอกอากาศ AC0650/10 เพราะมีประสิทธิภาพกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศ โดยสามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายใน 17 นาที นอกจากนี้ เครื่องยังเงียบเป็นพิเศษ เพราะเสียงเบาเพียง 19db เท่านั้น เหมาะใช้ฟอกอากาศสำหรับห้องขนาด 44 ตร.ม.
จุดเด่น:
- ระบบกรอง 2 ชั้นที่ใช้เทคโนโลยี HEPA ของ NanoProtect ช่วยจับอนุภาคละเอียดพิเศษที่เล็กถึง 0.003 ไมครอนได้ 99.97%
- ฟอกอากาศสะอาด 17 นาที
- สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ เพียงเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Air+
- ขนาดกะทัดรัด สูงเพียง 34 ซม.
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 170 ลบ.ม./ชม.
- การทำงานเงียบ เสียงเบาเพียง 19db
ราคา: 3,249 บาท
![]() | Philips air purifier |
4. เครื่องฟอกอากาศ Dee Taxt
สำหรับคุณแม่ที่อยากทดลองซื้อเครื่องกรองอากาศราคาย่อมเยาก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องราคาแพง เราขอแนะนำเครื่องกรองอากาศราคาหลักร้อยจาก Dee Taxt ที่ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 พร้อมกำจัดมลพิษสำหรับห้องขนาด 32 ตร.ม. เพราะราคาเพียง 499 บาทเท่านั้น แต่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 พร้อมเชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่น ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ ควันบุหรี่ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
จุดเด่น:
- ราคาถูก เพียง 499 บาท
- เครื่องกรองอากาศพร้อมรีโมท ไส้กรองอากาศ SUPER Air Purifier
- เสียงเบาเพียง 40 db
- สามารถตั้งเวลาในการปิดเครื่องได้ ออกจากบ้านได้สบาย หายห่วง
- สามารถป้องกันฝุ่น pm 2.5 เชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่น ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ ควันบุหรี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ และไรฝุ่นได้
ราคา: 499 บาท
![]() | Dee Taxt air purifier |
5. เครื่องฟอกอากาศ Dyson
ปิดท้ายด้วยเครื่องฟอกอากาศที่เชื่อว่าน่าจะเป็นหนึ่งใน Wish List ของคุณแม่หลาย ๆ ท่านกับ Dyson Purifier Cool ™ Gen1 Air Purifier TP10 ที่ความพิเศษจะอยู่ที่ความสามารถในการรับรู้และกำจัดมลพิษในอากาศได้อัตโนมัติ มาพร้อมตัวกรอง HEPA H13 ที่สามารถดักจับ 99.95% ของอนุภาคที่เล็กสุดได้ถึง 0.1 ไมครอน นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังหมุนส่ายได้ 350 องศา ช่วยกระจายอากาศที่กรองแล้วไปทั่วทั้งห้อง เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานขนาด 27 ตร.ม.
จุดเด่น:
- มาพร้อมชุดเซ็นเซอร์วิเคราะห์และตรวจสอบมลพิษในอากาศแบบเรียลไทม์ แล้วแสดงผลที่หน้าจอ LCD
- ระบบการกรองทั่วทั้งห้องด้วยเทคโนโลยี Air Multiplier™
- หมุนส่ายได้ 350 องศา กระจายอากาศที่กรองแล้วไปทั่วทั้งห้อง
- ปรับความแรงลมได้ 10 ระดับ
- ผ่านการทดสอบการกระจายอากาศ (DTM801) และการฟอกอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่ในห้องขนาด 81 ลบ.ม.
- ระดับเสียง 61.4 เดซิเบล (Maximum) และ 57.8 เดซิเบล (Minimum)
ราคา: 15,899 บาท
![]() | Dyson air purifier |
ผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ต่อลูกน้อย
ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดได้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของลูกน้อยที่ระบบภูมิคุ้มกันและปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ผลกระทบหลักที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
- ปัญหาสุขภาพทางเดินหายใจ ลูกน้อยอาจมีอาการไอ หายใจลำบาก และเสี่ยงต่อโรคหอบหืด
- ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้ลูกน้อยติดเชื้อได้ง่ายและป่วยบ่อยขึ้น
- ผลต่อการพัฒนาสมอง การได้รับฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้
เพื่อป้องกันสุขภาพของเจ้าตัวเล็ก คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการพาลูกน้อยออกนอกบ้านในวันที่ค่าฝุ่นสูง ใช้เครื่องกรองอากาศเพื่อลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน และให้ลูกน้อยสวมหน้ากากที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยในระยะยาว
หมายเหตุ: มะลิมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่เชื่อถือได้สำหรับคุณแม่ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรับประกันความถูกต้องหรือความครบถ้วนของเนื้อหาที่ให้ไว้ได้ เนื่องจากข้อมูลอาจมีการอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงตามเวลา เราขอแนะนำให้ผู้อ่านตรวจสอบรายละเอียดด้วยตนเองและไม่สามารถรับผิดชอบต่อความไม่ถูกต้องใด ๆ โดยผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ที่เราแนะนำ ถูกพิจารณาจากความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานของเราหรือคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยเราไม่ได้รับการสปอนเซอร์ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินหรือของขวัญจากแบรนด์