สารอาหารที่แม่ผ่าคลอดต้องรู้! เพื่อพัฒนาการของลูก

การผ่าคลอดทำให้ลูกน้อยไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่ดีจากช่องคลอด จึงมีโอกาสเจ็บป่วยและเป็นภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น และอาจมีพัฒนาการทางสมองที่แตกต่างจากเด็กที่คลอดธรรมชาติ

แม้การผ่าคลอดจะเป็นที่นิยมในปัจจุบัน แต่คุณแม่รู้หรือไม่ว่าการผ่าคลอดนั้นทำให้ทารกเสียโอกาสการได้รับจุลินทรีย์ที่ดีจากช่องคลอดซึ่งถือเป็นตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแรกๆ มีโอกาสเจ็บป่วยและเป็นภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ เด็กผ่าคลอดอาจมีพัฒนาการทางสมองที่ต่างไปด้วย ดังนั้นคุณแม่ควรเตรียมความพร้อมของเด็กผ่าคลอดตั้งแต่แรกเริ่มเพื่อให้ลูกน้อย ได้มีพัฒนาการที่ดีสมวัย

พัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอด 

กรณีที่คุณแม่มีปัญหาสุขภาพหรือไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าคลอด แต่คุณแม่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการผ่าคลอดนั้นอาจมีผลต่อพัฒนาการของลูก รวมถึงพัฒนาการด้านสมอง
โดยจากการศึกษาพบว่าสมองของเด็กผ่าคลอดมีการทำงานเชื่อมโยงที่ต่างจากเด็กที่คลอดธรรมชาติ อีกทั้งยังพบว่าเด็กผ่าคลอดอายุตั้งแต่ 3 เดือนจนถึง 3 ปี มีการสร้างไมอีลินในสมองที่น้อยกว่าเด็กคลอดธรรมชาติด้วย 

ลูกเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ ถ้าแม่ผ่าคลอด

นอกจากพัฒนาการด้านสมองแล้ว ภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการคลอดแบบธรรมชาตินั้น ทารกจะเคลื่อนออกจากมดลูกผ่านลงมายังช่องคลอดทำให้ได้รับ ‘โพรไบโอติก’ หรือจุลินทรีย์สุขภาพ ซึ่งอยู่ในช่องคลอดและลำไส้ส่วนล่างของคุณแม่ 

โดยจุลินทรีย์ดีเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายหลังจากที่คลอด ลูกลืมตาดูโลก นั่นจึงหมายความว่าทารกผ่าคลอดจะเสียโอกาสได้รับจุลินทรีย์ดีดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแรกๆภูมิคุ้มกันแรกของเด็ก 

นมแม่ สารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็กผ่าคลอด

เพราะจุดเริ่มต้นแตกต่างกันคุณแม่จึงต้องใส่ใจลูกน้อยเป็นพิเศษตั้งแต่วันแรก ด้วย ‘นมแม่’ ที่เป็นแหล่งรวมสารอาหารจำเป็นอย่างครบถ้วนกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารอาหารประเภทไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิดที่ชื่อว่า ‘สฟิงโกไมอีลิน’ ที่ช่วยในการสร้างปลอกไมอีลิน ทำให้สมองคิดเร็ว เรียนรู้ไว และ จุลินทรีย์สุขภาพ ‘บีแล็กทิส’ (B. lactis) ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย

• เสริมพัฒนาการทางสมองเด็กผ่าคลอดด้วย สฟิงโกไมอีลิน
  เสริมสร้างพัฒนาการสมองให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรกด้วย ‘สฟิงโกไมอีลิน’ ซึ่งพบมากในน้ำนมแม่ มีหน้าที่ช่วยสร้างปลอกไมอีลินซึ่งมีผลต่อการการทำงานของสมอง เพื่อเชื่อมต่อส่วนต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้สมองของลูกน้อยเกิดการเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น สามารถจดจำ คิดวิเคราะห์ และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเต็มศักยภาพ ซึ่งหากส่งผล กระบวนการพัฒนาของสมองจะสร้างได้ไว
• เสริมมิคุ้มกันในช่วงเริ่มต้นด้วย โพรไบโอติก บี แล็กทิส
  เพราะเด็กผ่าคลอดพลาดโอกาสได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากช่องคลอด ดังนั้น คุณแม่ต้องเสริมเกราะคุ้มกันให้เจ้าตัวเล็กด้วยการให้นมแม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากคลอด เนื่องจากนมแม่เป็นแหล่งของสารอาหารมากมายกว่า 200 ชนิด รวมถึงจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายสายพันธุ์ เช่น บี แล็กทิส (B. lactis) ซึ่งเป็นโพรไบโอติกส์ที่สามารถส่งต่อ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยนอกจากนี้ นมแม่ยังมี 2’-FL ที่เป็นพรีไบโอติกซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมระบบภูมิคุ้มกันแรกเริ่มของลูกน้อย อีกทั้งยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหารและช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อของลำไส้ ทำให้ลูกน้อยแข็งแรงสุขภาพดี

ทั้งนี้ หากคุณแม่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องผ่าคลอด และพัฒนาการลูกเพิ่มเติม สามารถปรึกษาทีมพยาบาล S-Mom Club ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย