ดาวน์โหลดแอป

ทำไมต้องให้ลูกเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังเล็ก และควรเริ่มตอนไหนดี?

สาระจาก THAI StemLife

ทำไมต้องให้ลูกเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ยังเล็ก และควรเริ่มตอนไหนดี?

เมื่อเด็กจมน้ำจะเกิดภาวะขาดอากาศหายใจ โดยการทำงานของหัวใจจะหยุดลงซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สมองขาดออกซิเจน 

หากร่างกายขาดออกซิเจนเป็นเวลา 5 นาที เซลล์สมองจะเริ่มตายลงจนเกิดอาการโคม่าและเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นทักษะการว่ายน้ำขั้นพื้นฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกควรรู้ไว้ 

ทำไมการสอนให้ลูกน้อยว่ายน้ำได้เป็นสิ่งจำเป็น?

การว่ายน้ำเป็นทักษะสำคัญที่เด็ก ๆ ควรมีติดตัวไว้ เพราะการจมน้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย และ 2 ใน 3 ของเด็กที่เสียชีวิตจากการจมน้ำว่ายน้ำไม่เป็น โดยกรมควบคุมโรคเปิดเผยว่าในระหว่างปี พ.ศ. 2555–2564 มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต รวม 7,374 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 2 คน ซึ่งจากการวิเคราะห์อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเด็กพบว่า เด็กอายุแรกเกิด – 4 ปี และอายุ 5-9 ปี มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด

โดยอุบัติเหตุจมน้ำนั้นเกิดขึ้นตามแหล่งน้ำธรรมชาติมากที่สุด รองลงมาคือสระว่ายน้ำและอ่างอาบน้ำ ซึ่งสาเหตุที่เด็กจมน้ำนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งจากการลงไปเล่นน้ำและการเล่นบริเวณใกล้ ๆ แหล่งน้ำจนพลัดตกลงไป ดังนั้น การส่งเสริมทักษะการว่ายน้ำให้แก่เด็กจะเป็นเกราะป้องกันให้แก่ลูกน้อยได้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

เริ่มฝึกให้ลูกน้อยว่ายน้ำอย่างไรดี?

คุณแม่สามารถพาลูกน้อยไปเรียนว่ายน้ำได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด อย่างไรก็ตาม แพทย์มักแนะนำให้รอจนกว่าทารกมีอายุครบ 6 สัปดาห์ก่อน เนื่องจากภูมิคุ้มกันของทารกแรกเกิดยังไม่แข็งแรงจึงอาจเสี่ยงติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย โดยคุณแม่ควรเลือกโรงเรียนสอนว่ายน้ำที่ไม่มีสารคลอรีน มีสระน้ำอุ่น หรือสระว่ายน้ำที่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส เนื่องจากอุณหภูมิของสระว่ายน้ำทั่วไปเย็นเกินไปสำหรับทารก แต่หากจำเป็นต้องลงว่ายในสระปกติ ควรนำเด็กขึ้นจากสระทุก ๆ 10 นาทีเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น 

โดยทักษะทางน้ำที่ควรสอนลูกน้อยเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด คือ: 

ข้อควรระวังเพื่อป้องกันลูกน้อยจมน้ำ


อุบัติเหตุจมน้ำสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงที่คุณแม่คลาดสายตาจากลูกเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้น คุณแม่ควรใส่ใจกับการป้องกันลูกน้อยเป็นพิเศษและดูแลไม่ให้ลูกเล่นน้ำตามลำพัง โดยทำได้ ดังนี้:

ทำอย่างไรเมื่อลูกจมน้ำ?

การปฐมพยาบาลที่ถูกวิธีเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของเด็กจากการจมน้ำ โดยปฏิบัติได้ตามนี้:


(การทำ CPR สำหรับทารกที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี)


(การทำ CPR สำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 1 ปี)

ภาวะบาดเจ็บทางสมองที่เกิดจากการจมน้ำ

ระยะเวลาในการจมน้ำอาจส่งผลให้เด็กมีภาวะบาดเจ็บทางสมอง อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยจาก THAI StemLife พบว่าสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือที่เก็บไว้ตอนแรกเกิดมีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูอาการหลังจากเกิดภาวะบาดเจ็บทางสมองได้

อย่างไรก็ตาม โอกาสในการรักษาด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือทารกภายใน 48 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ หากคุณแม่ได้เลือกเก็บสเต็มเซลล์ไว้กับ THAI StemLife  ธนาคารจะสามารถส่งสเต็มเซลล์ของลูกได้ทันทีภายใน 4 ชั่วโมง เนื่องจากบริษัทให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีสายด่วนสำหรับอุบัติเหตุฉุกเฉินโดยเฉพาะเพื่อลดโอกาสความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

พาร์ทเนอร์ที่มะลิไว้ใจ

THAI StemLife เป็นบริษัทสเต็มเซลล์แห่งแรก และบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นบริษัทเดียวที่มีประสบการณ์ในการนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในการช่วยชีวิตในสถานการณ์จริง และยังเป็นบริษัทเดียวที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการรักษาภาวะบาดเจ็บทางสมองในเหตุฉุกเฉิน

ดาวน์โหลดแอปMali Daily Pregnancy Tracker

แม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์

เรตติ้ง 4.9 จากผู้ใช้งานกว่า 10,000+ คน

เรตติ้ง 4.9 จากผู้ใช้งานกว่า 10,000+ คน