ดาวน์โหลดแอป

คู่มือการจัดบ้านให้ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย

สาระจาก THAI StemLife

คู่มือการจัดบ้านให้ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย

ทันทีที่ลูกเริ่มพลิกตัวจากหงายไปคว่ำได้ การจัดบ้านให้ปลอดภัยสำหรับทารกจะเป็นเรื่องสำคัญมาก  เด็กทารกที่คลานได้จะเริ่มสำรวจสิ่งรอบ ๆ ตัว และเขาก็จะสนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณที่จะทำให้พื้นที่ในบ้านปลอดภัย

บ้านจะเป็นอันตรายต่อทารกได้แค่ไหน?
อุบัติเหตุนับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของเด็กอายุ 1 – 14 ปี และ 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุมักเกิดภายในบ้าน ผู้รอดชีวิตมากมายรอดมาพร้อมกับภาวะพิการตลอดชีวิตหรือเกิดความเสียหายต่อสมอง กรณีที่เกิดบ่อยที่สุดสำหรับเด็ก ๆ คือการตกจากที่สูง ซึ่งนับเป็น 4 ใน 10 ของอุบัติเหตุทั้งหมด 

คุณจะปกป้องลูกได้อย่างไร?
สำหรับเด็กเล็ก สภาพแวดล้อมในบ้านมีความเสี่ยงตลอดเวลา อุบัติเหตุที่เกิดบ่อยคือการถูกของมีคมบาด ได้รับสารพิษ ของติดคอ ไฟฟ้าช็อต การตกจากที่สูง จมน้ำ และโดนไฟลวก อุบัติเหตุร้ายแรงหลายชนิดสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ใหญ่และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย 

จะทำบ้านให้ปลอดภัยได้อย่างไร?
ควรเริ่มจากลงไปนอนที่พื้นเพื่อมองโลกจากระดับสายตาของลูก จากนั้นลองพยายามสำรวจซอกมุมต่าง ๆ ของบ้านและใส่ใจกับบริเวณเหล่านี้เป็นพิเศษ:

ควรทำอย่างไรเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน?
ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินในบ้าน พยายามตั้งสติและทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ 

  1. ประเมินอาการบาดเจ็บ
  2. หากอาการรุนแรงให้เรียกรถพยาบาลทันที 
  3. หากจำเป็นให้ทำการปฐมพยาบาลหรือทำ CPR
  4. ในกรณีที่มีการกระทบกระเทือนทางสมองอย่างรุนแรง และคุณได้เก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือทารกของลูกไว้ ให้ติดต่อผู้ให้บริการทันที 

การจมน้ำ การตกจากที่สูง หรือการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะทุกชนิดอาจทำให้เกิดภาวะบาดเจ็บทางสมอง (traumatic brain injury หรือ TBI) ได้

ภาวะบาดเจ็บทางสมองคืออะไร
ภาวะบาดเจ็บทางสมอง (traumatic brain injury หรือ TBI) คือการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ภาวะบาดเจ็บทางสมองเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและภาวะพิการ ในกรณีที่รุนแรงแพทย์จะทำการรักษาโดยทำการผ่าตัดด่วนเพื่อหยุดการไหลของเลือดภายในสมองหรือเพื่อลดแรงดันจากอาการบวม

การรักษาภาวะบาดเจ็บทางสมองด้วยสเต็มเซลล์
ในปัจจุบันมีวิธีการรักษารูปแบบใหม่สำหรับภาวะบาดเจ็บทางสมอง โดยใช้สเต็มเซลล์ในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ประสาท ที่ผ่านมาการรักษาด้วยสเต็มเซลล์สามารถช่วยฟื้นฟูอาการหลังจากเกิดภาวะบาดเจ็บทางสมองได้

อย่างไรก็ตามโอกาสในการรักษาด้วยวิธีนี้มีเวลาจำกัด โดยจะต้องใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือทารกภายใน 48 ชั่วโมง หากคุณได้ทำการเก็บสเต็มเซลล์ไว้กับ THAI StemLife  ธนาคารจะสามารถส่งสเต็มเซลล์ของลูกไปยังห้อง ICU ในพื้นที่ได้ภายใน 4 ชั่วโมง เนื่องจากบริษัทให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และมีสายด่วนเพื่ออุบัติเหตุรูปแบบนี้โดยเฉพาะ ทำให้ลดโอกาสเกิดการสูญเสียได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้เก็บสเต็มเซลล์จากสายสะดือ สามารถใช้สเต็มเซลล์จากไขกระดูกมาช่วยในการรักษาได้เช่นกัน หากนำมาใช้อย่างทันท่วงที คุณสามารถติดต่อสายด่วนของTHAI StemLife ได้ที่เบอร์ +6681 340 7676

พาร์ทเนอร์ที่มะลิไว้ใจ
THAI StemLife เป็นบริษัทสเต็มเซลล์แห่งแรก และบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นบริษัทเดียวที่มีประสบการณ์ในการนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในการช่วยชีวิตในสถานการณ์จริง และยังเป็นบริษัทเดียวที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการรักษาภาวะบาดเจ็บทางสมองในเหตุฉุกเฉิน

ดาวน์โหลดแอปMali Daily Pregnancy Tracker

แม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์

เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน

เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน