ดาวน์โหลดแอป

แชร์ประสบการณ์ตั้งครรภ์ของคุณแม่มือใหม่ – คุณแม่ไหล

มองไปข้างหน้า

แชร์ประสบการณ์ตั้งครรภ์ของคุณแม่มือใหม่ – คุณแม่ไหล

“ความรู้สึกที่ท้องคลอดลูก และความเป็นแม่ก็มาชัดเจนหลังจากที่น้องเค้ามาแล้วค่ะ” – บทสัมภาษณ์ประสบการณ์การอุ้มท้องของคุณแม่ไหล

ประสบการณ์การตั้งครรภ์ของคุณแม่หลาย ๆ คนนั้นต่างกันออกไปมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ท้อง ความอยากอาหาร ความเหนื่อยล้า ไปจนถึงการคลอด ทางมะลิจึงได้จัดทำบทสัมภาษณ์ประสบการณ์ตรงของคุณแม่ที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตรเพื่อแบ่งปันเรื่องราวให้กับคุณแม่ แต่อย่าลืมว่าการตั้งครรภ์ของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะฉะนั้นคุณแม่ไม่ต้องตกใจไปถ้าเนื้อหาในบทสัมภาษณ์จะไม่ตรงการตั้งครรภ์ของคุณแม่เอง

อาการ Baby blues (ซึมเศร้าหลังคลอด)
อาการ Baby blues มีตอนประมาณ 2 อาทิตย์หลังคลอด ตอนนั้นจำได้ว่าร้องไห้ตอนที่กำลังร้องเพลงให้น้องเพื่อกล่อมน้องนอน เพราะว่ารู้สึกมีความสุขที่เขามาแล้ว และเขาก็มีความสุขมาก เขาหลับแล้วเราร้องเพลงให้เขาฟัง มันเป็นความสุข จริง ๆ ก็ไม่ใช่ Blues มาก แต่ออกแนวอารมณ์เข้มข้นขึ้นมากกว่า

อาการระหว่างตั้งครรภ์
ช่วง 3 เดือนแรก จะเป็นช่วงที่แพ้ท้องเป็นปกติ จะแพ้อาหารกินไม่ได้ อาเจียน แต่ว่าตอนที่ลำบากจริง ๆ เป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ผื่นขึ้น คันมาก เกาๆ ๆ ตอนนั้นทายาอะไรไม่ค่อยได้ด้วย เพราะว่าท้องอยู่ และจะมีกรดไหลย้อน เป็นทุกคืน เพราะว่าท้องใหญ่และก็จะดันกระเพาะ เพราะปกติจะเป็นคนที่เป็นกรดไหลย้อนง่ายอยู่แล้ว

อยากทานอะไรช่วงตั้งครรภ์
ตอนแรกคิด รอตั้งนานคิดว่าทำไมไม่เห็นอยากกินอะไรสักอย่าง เพิ่งมาเป็นตอนไตรมาสสุดท้าย กินน้ำแข็ง คือ ปกติไม่เคี้ยวน้ำแข็งเลย แล้วอยู่ดี ๆ ก็อยากกินน้ำแข็งขึ้นมาต้องไปเซเว่น ไปซื้อถุงน้ำแข็ง

การเพิ่มน้ำหนัก
น้ำหนักขึ้นทั้งหมด 11 กิโลกรัม แต่ว่าขึ้นเร็วมากตอนไตรมาสสุดท้าย ประมาณ 2-3 กิโลกรัม

สัญญาณก่อนคลอด
ของเรา ตอนแรกจะเป็นเหมือนปวดเตือนทุกๆ 15 นาที แต่ว่าเป็นปวดที่ไม่ได้รุนแรงมาก จากนั้นก็ไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็บอกว่า นี่เป็นเจ็บเตือน ยังไม่ใช่เจ็บจริง เราก็เลยกลับบ้านมาก่อน พอหลังจาก 24 ชั่วโมงแรกผ่านไปก็เริ่มถี่ขึ้น เจ็บแรงขึ้นและก็มีเลือดออกนิดนึง แล้วจึงไปโรงพยาบาล คุณหมอก็ตรวจดูปากมดลูก เปิดนิดนึง ก็เลยตัดสินใจว่า โอเค งั้นเรารอ จึงแอดมิด เพราะว่าครบ 40 อาทิตย์แล้ว จากนั้นก็รอ แล้วก็ปวดท้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เจ็บขึ้นเรื่อย ๆ ปากมดลูกเปิดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดรอ 36 ชั่วโมง แต่ว่าปวดแบบใกล้คลอดจริง ๆ ประมาณ 12 ชั่วโมง

ประสบการณ์คลอด
ตอนคลอด ตอนแรกคิดว่าจะคลอดธรรมชาติ แบบที่ไม่ต้องใช้ยาบล็อคหลัง แต่ว่าพอถึงเวลา เราก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง ทั้งความเจ็บ และอยากคลอดลูกธรรมชาติด้วย เพราะว่าถ้าเราทนไปนาน ๆ เราจะไม่มีแรงเบ่ง ก็เลยรอไปจนถึงประมาณ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ขอบล็อคหลัง และได้นอนประมาณ 2 ชั่วโมงได้ แล้วก็คลอดน้องออกมา จำได้ว่าตอนเบ่ง เบ่งไม่นาน ไม่ยากเท่าไร รู้สึกว่าโอเค 🙂

การบล็อคหลัง
บล็อคหลังจะบล็อคแบบที่ไม่ได้ ชาไปทั้งหมด คือ เขายังให้เรารู้สึกปวดนิดนึง ลดความปวดลงมา อยู่ในระดับที่เรารับได้ แล้วเราก็รอไปเรื่อย ๆ การที่เรายังรู้สึกปวดท้องมีประโยชน์ ทำให้เราสามารถเบ่งตอนที่มดลูกบีบตัวได้

หลังคลอด
เราก็จะได้อยู่กับน้อง คุณหมอจะพาน้องมาที่หน้าอกแม่ ได้อยู่กับคุณแม่คุณพ่อ พักนึง ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วคุณหมอก็จะพาน้องไปตรวจสอบร่างกาย ดูว่าแข็งแรงดีหรือไม่ เขาก็แข็งแรงดี อ้วนด้วย

การให้นม
การให้นมลูกตอนแรกเราก็จะกลัวเหมือนกัน กลัวเจ็บ อะไรแบบนี้ แต่จริง ๆ สำหรับเรา เจ็บไม่เยอะค่ะ แต่น้องเขาจะดูดแรง และต้องให้ทุกๆ 3 ชั่วโมง เป็นคนที่โชคดีที่มีน้ำนมอยู่แล้ว น้องก็จะดูดค่อนข้างโอเค ดูด 15 นาทีข้างนึง และเปลี่ยนไปอีกข้างนึง 15 นาที แล้วน้องก็จะหิวทุกๆ 3 ชั่วโมง

การนอนหลับ
วงจรการนอน ก็นอนตามน้องเลย ก็พยายามจะนอนกลางวัน เพราะว่าน้องจะนอน 3 ชั่วโมง ตื่น 3 ชั่วโมง เราก็ต้องตื่นกลางคืน นอนน้อย แต่เดี๋ยวเราก็จะชินเอง จริง ๆ ก็จะชินมาตั้งแต่ตอนท้อง เพราะว่าต้องตื่นมาฉี่ตอนกลางคืน

ความรู้สึกของคุณแม่
สำหรับเรา เหมือนโลกหยุด คือเหมือน มีแค่เขา คือตื่นนอน อาบน้ำหรือว่าให้เขากินนม มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีมากที่ได้ดูแลสิ่งมีชีวิต ที่เราสร้างเขาขึ้นมา ตื่นนอน เราจะให้เขากินนม ดูผ้าอ้อม ดูว่ามีอึรึเปล่า เช็ดให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อให้เขาสบาย ๆ เขาร้อนไหม หรือว่าเขาอยากจะเล่นกับเรา เพราะว่าพ่อแม่ก็คือของเล่นที่ดีที่สุดของลูกในตอนนี้ ทำของเล่นให้เขามันก็มีความสุข มีความสุขนะ

ดาวน์โหลดแอปMali Daily Pregnancy Tracker

แม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์

เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน

เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน