รอยแตกลายและอาการคันจากการตั้งครรภ์ แก้อย่างไรดี
คุณแม่

ด้วยการเจริญเติบโตของ ลูก และการเพิ่มขนาดของเต้านมของคุณแม่ ผิวของคุณแม่จะยืดออก ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดรอยแตกลายและอาการคันที่หน้าท้องได้
แต่ไม่ใช่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนที่จะพบกับปัญหานี้
ทำไมคุณแม่จึงมีรอยแตกลาย
รอยแตกลายคือลายเส้นสีชมพูหรือสีแดง ซึ่งอาจเกิดบริเวณรอบหน้าอก หน้าท้อง หรือต้นขา เนื่องจากผิวของคุณแม่ยืดตัวอย่างรวดเร็วในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะลูกน้อยของคุณแม่โตขึ้น และน้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ระดับของฮอร์โมนที่สูงขึ้นอาจทำลายสมดุลของโปรตีนที่ผิวของคุณแม่และทำให้ผิวบางลง เกือบ 90% ของคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีรอยแตกลาย
คุณแม่ควรทำอย่างไร
ไม่มีอะไรที่คุณแม่สามารถทำได้เพื่อป้องกันรอยแตกลาย แต่คุณแม่สามารถลดโอกาสของการเกิดได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักตัวที่เร็วเกินไป ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดื่มน้ำมาก ๆ หลังจากการตั้งครรภ์รอยแตกลายจะค่อย ๆ จางหายไป และกลายเป็นเส้นสีขาว หรือน้ำตาล แต่อาจกินเวลานานประมาณหกเดือน คุณแม่ควรมองในแง่ดี ว่ารอยแตกลายนี้คือเครื่องหมายยืนยันว่ามันเกิดจากการที่คุณแม่อุ้มท้องลูกมานั่นเอง
และนอกเหนือไปจากรอยแตกลายแล้ว คุณแม่ยังอาจพบอาการคันบริเวณผิวหนังร่วมด้วย
อาการคันที่หน้าท้อง
เนื่องจากท้องของคุณแม่โตขึ้น ผิวหนังของคุณแม่จะยืดและตึงมากขึ้น ทำให้ผิวแห้งและมีอาการคัน หากคุณแม่เริ่มมีอาการคันอย่างรุนแรงในช่วงปลายของการตั้งครรภ์ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร และอ่อนเพลีย หรือมีอาการตัวเหลือง คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของโรค Cholestasis ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของตับ โรค Cholestasis อาจเกิดขึ้นในคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกๆ 50 คน แต่จะไม่เป็นปัญหาหลังการคลอด
ถ้าอาการคันรุนแรงและกระจายตัวไปที่แขนและขา นั่นอาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบและผื่นพิษ PUPP ได้ ผื่นพิษ PUPP เกิดขึ้นได้ประมาณ 1 ใน 150 คนของคุณแม่ตั้งครรภ์ PUPP เป็นผื่นแดงบนผิวหนังและจะหายไปหลังคลอด
คุณแม่ควรทำอย่างไร
เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน หน้าท้องแห้งของคุณแม่ ควรให้ความชุ่มชื่นแก่หน้าท้องของคุณแม่อยู่เสมอ นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถใช้ครีมป้องกันอาการคัน เช่นโลชั่นคาลาไมน์ เพื่อช่วยให้อาการคันบรรเทาลง
รับรองโดย:
นพ. ปิยวุฒิ กรีฑาภิรมย์ (25 มกราคม 2019)