วีธีรับมือกับอาการท้องผูกขณะตั้งครรภ์

คุณแม่ส่วนใหญ่มักได้รับผลกระทบจากอาการท้องผูกในช่วงใดช่วงหนึ่งของการตั้งครรภ์ จึงถือเป็นเรื่องค่อนข้างปกติที่คุณแม่จะพบอาการนี้บ้าง ไม่มากก็น้อย

อาการท้องผูกเกิดขึ้นเมื่อมีอาการปวดท้องหรือไม่สบายท้อง ถ่ายอุจจาระได้ยาก ไม่สม่ำเสมอ และมีอุจจาระแข็ง 

อะไรคือสาเหตุของอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์?
อาการท้องผูกในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น เกิดจากฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ลำไส้บีบตัวลดลงและเบาลง และแรงดันของมดลูกที่ขยายตัวไปกดดันที่ลำไส้ ทำให้อาหารและของเสียภายในลำไส้เคลื่อนที่ผ่านระบบย่อยอาหารของคุณแม่ได้ช้าลง

สาเหตุทั่วไปอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์:

• ความวิตกกังวล
• ออกกำลังกายไม่เพียงพอ
• รับประทานอาหารที่มีใยอาหารต่ำ
• การรับประทานธาตุเหล็กเสริมอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์บางคน

วิธีการป้องกันและรักษาอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์
คุณแม่อาจทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อช่วยป้องกันหรือรักษาอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์:

• รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช
• ดื่มน้ำมาก ๆ 10 – 12 แก้วต่อวัน การรวมกันของอาหารที่มีกากใยสูงและของเหลวจำนวนมาก เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้คุณแม่กำจัดของเสียออกจากร่างกาย
• ออกกำลังกายเป็นประจำ การเดิน การว่ายน้ำ และการออกกำลังกายระดับปานกลางอื่น ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
• ลด หรือเปลี่ยนอาหารเสริมธาตุเหล็กเป็นชนิดอื่น ลองปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการตรวจสอบระดับธาตุเหล็กและขอคำแนะนำสำหรับปริมาณธาตุเหล็กที่ควรได้รับในระหว่างตั้งครรภ์ ถ้าหากพบว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องผูก

เมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์?
หากคุณแม่ลองเปลี่ยนอาหารเสริมและออกกำลังกายให้มากขึ้นแล้ว แต่อาการท้องผูกยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ คุณแม่ไม่ควรรับประทานยาระบาย ยกเว้นแต่ในกรณีที่แพทย์สั่งเท่านั้น