ดาวน์โหลดแอป

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้เด็ก ๆ

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้เด็ก ๆ

พัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยเป็นสิ่งที่ไม่ควรเร่งรีบ แต่ก็มีหลายสิ่งที่คุณแม่สามารถช่วยลูกได้

ถึงแม้การเร่งกระบวนการพัฒนาการทางภาษาของลูกน้อยเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่ก็มีบางสิ่งที่คุณแม่ทำได้เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของลูก งานวิจัยพบว่าคุณภาพของปฏิสัมพันธ์ที่ลูกน้อยมีระหว่างคุณพ่อคุณแม่ และผู้ดูแลคนอื่นจะมีความสำคัญมากที่สุด

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสรุปสิ่งที่คุณแม่สามารถทำได้เพื่อช่วยในการพัฒนาทักษะทางภาษาของลูก:

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก_บอกลูกว่าคุณกำลังทำอะไร by Mali

บอกลูกว่าคุณกำลังทำอะไร: สร้างนิสัยในการพูดคุยกับลูกตลอดทั้งวัน อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น ขณะที่คุณแม่กำลังทำงานบ้านประจำวัน อธิบายให้ลูกฟังว่าคุณแม่กำลังทำอะไรอยู่ หากคุณแม่กำลังทำอาหารให้บอกเขาว่าคุณกำลังทำอาหารอะไร เมื่อคุณแม่กำลังจะอาบน้ำให้ลูก ควรบอกลูกว่าคุณแม่กำลังทำอะไร เช่น “แม่กำลังราดน้ำลงบนท้องของหนู”

ในช่วงเวลาว่างในแต่ละวัน ลองเล่านิทานให้ลูกฟัง คุณแม่อาจแต่งเรื่องขึ้นมาเองและแสดงเป็นตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง เพื่อทำให้เรื่องราวน่าสนใจมากขึ้น แม้ว่าลูกจะยังไม่เข้าใจว่าคุณแม่กำลังพูดถึงอะไร แต่การได้ฟังคำพูดบ่อย ๆ นั้นมีประสิทธิภาพในการช่วยสร้างคำศัพท์และช่วยให้ลูกเรียนรู้กฎของไวยากรณ์ได้

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก_เอาใจใส่และให้เขาได้เป็นผู้นำ by Mali

เอาใจใส่และปล่อยให้ลูกเป็นผู้นำ: ทารกจะรู้สึกดีที่ได้รับรู้ว่าคุณแม่ให้ความสนใจกับท่าทางของพวกเขา (รับฟัง) และรอคอยการตอบสนองทางอารมณ์ของคุณ (การตอบกลับ) “การรับฟังและการตอบกลับ” นี้เป็นรากฐานสำคัญของกระบวนการเรียนรู้ของทารก

เมื่อคุณแม่ให้ความสนใจลูก คุณแม่ก็จะได้เรียนรู้ว่าลูกกำลังสนใจอะไร เมื่อรู้แล้วก็ให้คุยเรื่องสิ่งที่เขาสนใจให้เขาฟัง หากลูกชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือของคุณแม่ ก็ได้เวลาที่คุณแม่จะบอกเขาเกี่ยวกับรูปร่าง การเคลื่อนไหว และหน้าที่ของนาฬิกา การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าเด็ก ๆ จะเรียนรู้ได้มากขึ้นเมื่อเราพูดถึงสิ่งที่พวกเขาสนใจ

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก_อ่านหนังสือให้ลูกฟัง by Mali

อ่านหนังสือให้ลูกฟัง: หาเวลาอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน  และอย่าเพียงแค่อ่านเฉย ๆ ควรให้ลูกดูหนังสือไปพร้อม ๆ กับคุณแม่ โดยชี้ให้เขาดูคำและรูปภาพ หากลูกน้อยชี้ที่รูปภาพให้บอกเขาว่ามันคืออะไร เมื่อเด็ก ๆ เริ่มโตขึ้น คุณแม่สามารถชี้ที่รูปภาพหรือคำศัพท์ และถามลูกว่าคุณกำลังชี้ไปที่อะไร

คุณแม่สามารถเริ่มชวนลูกอ่านหนังสือได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป เมื่อการมองเห็นของพวกเขาดีพอที่จะสามารถโฟกัสไปที่องค์ประกอบต่าง ๆ ในหนังสือได้ ควรเริ่มต้นด้วยหนังสืออ่านเล่นธรรมดา ๆ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นหนังสือภาพและเรื่องราวที่ยาวขึ้นเมื่อลูกมีอายุมากขึ้น

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก_ร้องเพลงไปกับลูก by Mali

ร้องเพลงไปกับลูก: ทารกและเด็กวัยหัดเดินชอบจังหวะของเพลง และมักจะหยุดฟังเมื่อได้ยินเพลงที่ชอบ พยายามร้องเพลงให้ลูกฟังทุกครั้งที่มีโอกาส คุณแม่สามารถร้องเพลงง่าย ๆ หรือเพลงกล่อมเด็ก เช่น “แมงมุมลายตัวนั้น” หรือ “โยกเยกเอย” ได้

การที่เด็ก ๆ ชอบเสียงดนตรีไม่ได้หมายความว่าคุณแม่สามารถปล่อยให้ลูกดูวิดีโอคนเดียวและหวังว่าเขาจะเรียนรู้จากวิดีโอได้ สำหรับเด็กส่วนใหญ่เวลาที่มีคุณภาพกับคุณแม่และผู้คนรอบข้างจะนำไปสู่ประสบการณ์การเรียนรู้ทางบวกที่ดีที่สุด

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก_แสดงอารมณ์และท่าทาง by Mali

แสดงอารมณ์และทำท่าทาง: เด็ก ๆ ไม่ได้เรียนรู้จากคำพูดเพียงอย่างเดียว พวกเขายังสามารถเรียนรู้จากท่าทางและอารมณ์ที่คุณแม่แสดงออกมาในน้ำเสียงได้อีกด้วย การเคลื่อนไหวร่างกายในขณะที่พูด และอารมณ์ในน้ำเสียงของคุณแม่จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจบริบทของสิ่งที่คุณกำลังสื่อสารได้ดีขึ้น

การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า หากคุณเขย่าของเล่นเบา ๆ ในขณะที่เรียกชื่อของเล่นไปด้วย ทารกจะรู้จักชื่อของเล่นชิ้นนั้นได้ง่ายกว่า ดังนั้นเมื่อพูดคำต่าง ๆ ควรใช้น้ำเสียง การใส่อารมณ์ การเคลื่อนไหวท่าทาง และประสบการณ์ที่น่าจดจำอื่น ๆ เข้ามาช่วยเสริม จะมีประโยชน์ให้ลูกจำคำได้มากขึ้น

กฎ 6 ข้อเพื่อช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก_ก้าวไปข้างหน้า by Mali

ก้าวไปข้างหน้า: กฎข้อสุดท้ายของคำแนะนำนี้คือ ให้นำหน้าความสามารถของลูกในขณะนั้นไปหนึ่งก้าวเสมอ กล่าวอีกนัยหนึ่งคืออย่า “ใช้คำพูดผิดตามลูก” ตัวอย่างเช่น หากลูกเรียกขวดด้วยคำว่า “ขะ ขะ” เพราะยังออกเสียงเต็มคำไม่ได้ คุณก็ควรพูดว่า “ขวด” เพื่อสอนคำที่ถูกต้องและการออกเสียงที่เหมาะสมให้กับเขา

เมื่อลูกมาถึงขั้นที่สามารถพูดคำศัพท์ได้อย่างถูกต้องแล้ว ให้พูดคำบรรยายเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น หากลูกพูดว่า “ลูกบอล” คุณแม่สามารถพูดว่า “ลูกบอลสีขาว” (ถ้าสีเป็นสีขาว) หรือหากพวกเขาชี้ไปที่สุนัขและพูดว่า “สุนัข” ให้ตอบกลับโดยบอกว่า “ใช่ นั่นสุนัขตัวใหญ่” และควรให้ลูกได้มองปาก เพื่อที่จะได้ดูลักษณะของปากและการออกเสียงที่ถูกต้อง

รับรองโดย:

เกศสุภา จิระการณ์ (นักสุขภาพจิต) (31 มีนาคม 2021)

ที่มา:

ดาวน์โหลดแอปMali Daily Pregnancy Tracker

แม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์

เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน

เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน