เมนูสำหรับทารก: แอปเปิ้ลและกล้วย
แอปเปิ้ลและกล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและพัฒนาการของลูก
เมนูแนะนำ: ข้าวโอ๊ตใส่แอปเปิ้ลและกล้วย
คุณสามารถใช้สูตรนี้ทำอาหารเช้าง่าย ๆ แสนอร่อยให้กับลูกน้อยได้
ส่วนผสม
- แอปเปิ้ล 1/4 ลูก
- กล้วย 1/2 ลูก
- ข้าวโอ๊ตบด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ใส่ข้าวโอ๊ตลงในหม้อพร้อมน้ำ ต้มให้เดือดด้วยไฟแรง
- ปอกเปลือกแอปเปิ้ลและหั่นเป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำไปต้มจนกว่าแอปเปิ้ลจะนิ่ม
- บดกล้วยและใส่ลงในข้าวโอ๊ตผสมกับแอปเปิ้ลที่สุกแล้ว
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องปั่นและปั่นให้ละเอียด สามารถเติมน้ำเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ความข้นตามที่ต้องการ
คุณสามารถเสิร์ฟข้าวโอ๊ตผสมแอปเปิ้ลและกล้วยให้กับลูกได้เมื่อเขาคุ้นเคยกับส่วนผสมทุกอย่างแล้ว
ทำไมส่วนผสมนี้จึงดีต่อลูก?
โพแทสเซียมในกล้วยเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อหัวใจและระบบประสาทของลูก กล้วยยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิดและมีไฟเบอร์สูง ส่วนแอปเปิ้ลเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี วิตามินซีเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับการพัฒนา ผิวหนัง กระดูกและเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ผลไม้ทั้งสองชนิดยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งจะช่วยในการย่อยอาหารและช่วยป้องกันท้องผูก
สิ่งที่ควรรู้
ผลไม้ทั้งสองชนิดมีน้ำตาลสูง หากเด็ก ๆ ได้รับน้ำตาลมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อการพัฒนาสมองได้
ลูกจะเริ่มกินแอปเปิ้ลและกล้วยได้เมื่อไร?
คุณสามารถให้ลูกกินผลไม้ทั้งสองชนิดได้เมื่อลูกอายุ 6 เดือน ทั้งแอปเปิ้ลและกล้วยต่างก็เคี้ยวง่ายและกลืนได้ง่าย จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทารก
เมนูแอปเปิ้ลและกล้วย
- แอปเปิ้ลและกล้วยบดละเอียด: หั่นกล้วยเป็นแว่น ๆ และหั่นแอปเปิ้ลเป็นลูกเต๋า นึ่งผลไม้ทั้งสองด้วยกันจนแอปเปิ้ลนิ่ม จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดจนได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ หากตอนนี้ลูกเคี้ยวอาหารเป็นแล้วคุณอาจใช้ส้อมบดส่วนผสมเข้าด้วยกันเพื่อให้ยังมีผิวสัมผัสเป็นชิ้น ๆ อยู่
- แอปเปิ้ลและกล้วยหั่น: หากคุณอยากให้ลูกถืออาหารและกินเอง (ฝึกลูกกินอาหารแบบ baby-led-weaning) ให้หั่นแอปเปิ้ลและกล้วยเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้เจ้าตัวน้อยสามารถหยิบและเคี้ยวได้ง่าย ควรดูให้แน่ใจว่าปอกเปลือกและเอาเมล็ดออกให้หมด
ลูกควรกินปริมาณเท่าไร?
องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าทารกควรเริ่มทานอาหารตั้งแต่อายุ 6 เดือน โดยให้เป็นอาหารเสริมนอกเหนือจากนมแม่หรือนมผง สำหรับช่วง 6-8 เดือนแรกที่เริ่มกินควรให้กินวันละ 2-3 มื้อ โดยสัดส่วนของแคลอรี่ที่ควรได้รับระหว่างนมแม่และอาหารแข็งควรเป็นดังนี้:
การเริ่มให้กินอาหารชนิดใหม่
พยายามให้ลูกเริ่มกินอาหารชนิดใหม่ตอนที่เขาหิว และควรให้กินครั้งละ 1 อย่างเพื่อสังเกตอาการแพ้อาหารที่อาจเกิดขึ้น เรียนรู้เกี่ยวกับการให้ลูกเริ่มกินอาหารแข็งได้ที่นี่
ข้อควรระวัง
หากคุณใช้วิธี baby-led-weaning ควรศึกษารายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีนี้อย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องความแตกต่างระหว่างอาการสำลักและอาหารติดคอ และควรรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน