เมนูสำหรับทารก: แพนเค้กกล้วย
เมนูแพนเค้กกล้วยนี้ทำจากส่วนผสมเพียง 3 อย่าง คือกล้วย ไข่ และแป้งสาลี ส่วนผสมเหล่านี้ต่างก็เป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับให้ลูกใช้ในแต่ละวัน
ทำไมแพนเค้กกล้วยจึงดีต่อลูก?
กล้วยเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดี โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต กล้วยยังมีไฟเบอร์ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุเช่นวิตามินซี วิตามินบี 6 และแมงกานีส แป้งสาลีเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีซึ่งจะให้พลังงานแก่ร่างกาย แป้งสาลียังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งจำเป็นในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ไข่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพเยี่ยมและยังมีวิตามินและแร่ธาตุเช่นวิตามินดี วิตามินอี และโคลีน ไข่ยังมีไขมันดีซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาสมองของทารกอีกด้วย
สิ่งที่ควรรู้
ควรดูให้แน่ใจว่าแพนเค้กสุกทั่วทั้งชิ้น ทารกไม่ควรกินไข่ดิบเนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิดอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียซาลโมเนลลา
ลูกจะเริ่มกินแพนเค้กกล้วยได้เมื่อไร?
คุณสามารถเสิร์ฟแพนเค้กกล้วยให้ลูกได้เมื่อลูกน้อยเคี้ยวอาหารเป็นแล้ว
เมนูแพนเค้กกล้วย
- บดกล้วยให้เละโดยให้เหลือเพียงกล้วยชิ้นเล็ก ๆ อยู่ในเนื้อกล้วยได้นิดหน่อย
- ใส่แป้งสาลีและไข่ ผสมให้เข้ากันดี
- ตั้งกระทะร้อนไฟปานกลาง ใส่เนยลงในกระทะเล็กน้อย จากนั้นใส่ส่วนผสมลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ปล่อยให้แพนเค้กสุกโดยใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที หรือจนกว่าด้านหนึ่งเริ่มแข็งและมีสีน้ำตาลทอง สูตรนี้จะต่างจากแพนเค้กปกติตรงที่ไม่มีฟองอากาศในเนื้อแพนเค้ก เมื่อแพนเค้กสุกด้านหนึ่งแล้วให้กลับด้านแล้วรออีกประมาณ 2-3 นาทีหรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลทอง
- ควรวางทิ้งไว้ให้หายร้อนก่อนนำมาเสิร์ฟให้ลูกน้อย
ลูกควรกินปริมาณเท่าไร?
องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าทารกควรเริ่มทานอาหารตั้งแต่อายุ 6 เดือน โดยให้เป็นอาหารเสริมนอกเหนือจากนมแม่หรือนมผง สำหรับช่วง 6-8 เดือนแรกที่เริ่มกินควรให้กินวันละ 2-3 มื้อ โดยสัดส่วนของแคลอรี่ที่ควรได้รับระหว่างนมแม่และอาหารแข็งควรเป็นดังนี้:
การเริ่มให้กินอาหารชนิดใหม่
พยายามให้ลูกเริ่มกินอาหารชนิดใหม่ตอนที่เขาหิว และควรให้กินครั้งละ 1 อย่างเพื่อสังเกตอาการแพ้อาหารที่อาจเกิดขึ้น เรียนรู้เกี่ยวกับการให้ลูกเริ่มกินอาหารแข็งได้ที่นี่
ข้อควรระวัง
หากคุณใช้วิธี baby-led-weaning ควรศึกษารายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีนี้อย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องความแตกต่างระหว่างอาการสำลักและอาหารติดคอ และควรรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน