การดูแลสุขภาพช่องปากของทารก
การดูแลสุขภาพช่องปากของทารกถือเป็นเรื่องสำคัญ และควรเริ่มดูแลตั้งแต่ก่อนฟันจะขึ้น
การดูแลให้ทารกและเด็กเล็กมีสุขภาพในช่องปากที่ดีอยู่เสมอจะช่วยป้องกันหรือลดการเกิดฟันผุได้ นอกจากนี้การดูแลสุขภาพช่องปากของลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้เขาคุ้นเคยกับกิจวัตรนี้ได้ง่ายขึ้น
ทำไมจึงควรเริ่มดูแลสุขภาพช่องปากให้ลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ
ตอนนี้ฟันน้ำนมของลูกอาจดูเล็กจิ๋ว แต่ฟันเหล่านี้ก็สำคัญอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูก ฟันซี่เล็ก ๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกดูน่ารักเมื่อเขายิ้มหวาน แต่ยังช่วยรักษาพื้นที่ให้ฟันแท้เมื่อเขาโตขึ้น นอกจากนี้ลูกต้องใช้ฟันน้ำนมของเขาในการเคี้ยวอาหารและฝึกออกเสียงคำอย่างถูกต้อง หากลูกมีฟันผุเขาจะมีปัญหาในการกินอาหารและอาจมีปัญหาในฝึกพูดให้ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ การเล่น และการเรียนรู้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการดูแลสุขภาพฟันและช่องปากของลูกน้อยจึงเป็นเรื่องสำคัญ สาเหตุของฟันผุที่พบบ่อยที่สุดคือน้ำตาล และเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก เมื่อมีน้ำตาลจากอาหาร ขนม ต่าง ๆ ติดที่ตัวฟัน เชื้อแบคทีเรียจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นกรดซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวฟัน ทำให้เกิดฟันผุเป็นรูในที่สุด และเป็นสาเหตุหลักของการปวดฟัน ติดเชื้อ เป็นหนองในช่องปาก การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เป็นประจำตั้งแต่เมื่อเริ่มมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นจะช่วยกำจัดน้ำตาลออกจากผิวฟัน และช่วยป้องกันโรคฟันผุได้
การดูแลสุขภาพเหงือกของลูกน้อย
ควรเริ่มดูแลเหงือกของลูกตั้งแต่แรกเกิด แน่นอนว่าในสัปดาห์แรก ๆ นี้ลูกยังไม่มีฟัน ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้แปรงสีฟันหรือยาสีฟัน
สิ่งที่ควรทำคือใช้ผ้านุ่ม ๆ หรือผ้าก๊อซชุบน้ำสะอาดแล้วนำมาเช็ดที่เหงือกของลูกอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง แต่หากทำได้ควรเช็ดทุกครั้งหลังดื่มนม และก่อนเข้านอน
การทำแบบนี้จะช่วยไม่ให้แบคทีเรียสะสมที่เหงือก เพราะเมื่อแบคทีเรียบนสะสมที่เหงือกอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อฟันเมื่อฟันเริ่มขึ้นในช่องปากได้
การแปรงฟันให้ทารก
เมื่อฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้น ควรแปรงฟันวันละสองครั้งโดยใช้แปรงสีฟันหัวเล็กและ ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่สมาคมทันตแพทย์สำหรับเด็กแห่งอเมริกาแนะนำ:
- เมื่อฟันซี่แรกขึ้น (อายุต่ำกว่า 3 ขวบ)ให้ใช้แปรงแตะยาสีฟันเป็นชั้นบาง ๆ
- 3-6 ขวบ ใช้ยาสีฟันขนาดเท่าเม็ดถั่วลันเตา
- 6 ขวบขึ้นไปให้ใช้ยาสีฟันเต็มหน้าแปรงสำหรับเด็ก
ควรใช้แปรงแบบแห้ง คือไม่ใช้น้ำระหว่างแปรง หากเด็กยังบ้วนปากไม่เป็น ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดยาสีฟันออกหลังแปรงฟัน หากบ้วนเป็นแล้วให้บ้วนยาสีฟันทิ้งโดยไม่บ้วนน้ำตาม ควรงดน้ำและอาหาร 30 นาทีหลังแปรงฟันจะได้ผลดีที่สุด
ปัญหาในช่องปากของทารก
เด็กทารกก็มีปัญหาในช่องปากเหมือนผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ดูแลสุขภาพช่องปาก ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในเด็กคือฟันผุ ตามสถิติของกรมควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา 1 ใน 5 ของเด็ก ๆ อายุ 5-11 ปีจะมีปัญหาฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างน้อย 1 ซี่
ปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ ที่พบบ่อยในเด็กมีดังนี้
- เสียวฟัน
- เหงือกอักเสบและโรคเหงือก
- ปัญหาเกี่ยวกับการเรียงตัวของฟัน
- ฟันหลุดในทารก
- ดูดนิ้วมากเกินไป
- มีกลิ่นปาก
- กัดฟัน
- ปัญหาความวิตกกังวลเกี่ยวกับฟันและความกลัวเกี่ยวกับฟัน
ควรไปพบทันตแพทย์เมื่อไร
โดยปกติแล้วคุณควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เมื่อมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น (ช่วง 6 เดือนเป็นต้นไป) หรือก่อนอายุครบ 1 ปี เพื่อตรวจสุขภาพฟัน สร้างความคุ้นเคยและทัศนคติที่ดีกับการทำฟัน และตรวจหาปัญหาเกี่ยวกับช่องปากตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนหน้านั้นคุณสามารถคุยกับทันตแพทย์เกี่ยวกับการใช้ฟลูออไรด์เฉพาะที่ เป็นประจำทุก 3-6 เดือน จนกว่าเด็กจะอายุครบ 12 ปี
คุณสามารถไปพบทันตแพทย์เวลาไหนก็ได้หากพบว่าลูกมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก หรือมีภาวะที่ผิดปกติเกี่ยวกับช่องปาก
รับรองโดย:
ทพญ. ณัชค์สมิน พัชรวิภาคกิจ (18 กุมภาพันธ์ 2022)