ทำความเข้าใจทักษะสมอง EF

ทักษะทางสมองที่เรียกว่า Executive Function หรือ EF คือกระบวนการของสมองที่ใช้ในการวางแผน ตั้งสมาธิในการทำสิ่งต่าง ๆ การจดจำคำสั่ง และการทำหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
EF ประกอบด้วยสามส่วนหลัก ๆ คือ ความจำใช้งาน (Working Memory) ระบบการยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) และความคิดยืดหยุ่น (Cognitive Flexibility) สามส่วนนี้มีความสัมพันธ์กันหมด และมีอิทธิพลต่อกันและกัน
ทักษะสมอง EF ส่วนใหญ่จะพัฒนาขึ้นในช่วง 5 ขวบปีแรกของเด็ก ดังนั้นผู้ปกครองและคุณครูสามารถช่วยเด็ก ๆ ในการพัฒนา EF ได้อย่างมากในช่วงนี้
EF คืออะไรกันแน่?
นักจิตวิทยา Deborah Philips จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์เรียก EF ว่าเป็น “ระบบควบคุมจราจรทางอากาศ” ของสมอง สมองของคนเราต้องจัดการข้อมูลมากมายที่เข้ามา รวมไปถึงจัดการกับสิ่งรบกวนในเวลาเดียวกัน เมื่อเทียบแล้วก็ไม่ต่างจากการควบคุมจราจรทางอากาศ ที่ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำให้บินขึ้นและลงจอดในเวลาที่เหมาะเจาะนั่นเอง หากไม่มีทักษะ EF แล้วหายนะย่อมเกิดขึ้น
มาดูส่วนประกอบสามอย่างของ EF กัน:
- การจดจำเพื่อใช้งาน (Working Memory) การจดจำเพื่อใช้งานมีหน้าที่จัดการข้อมูล หากส่วนประกอบนี้ถูกพัฒนาเต็มที่ จะช่วยให้สมองสามารถจัดการข้อมูลปริมาณมากได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้สามารถทำงานยาก ๆ ที่ซับซ้อน และทำให้สมองสามารถเข้าใจแนวคิดยาก ๆ ได้ หากไม่มีการจดจำเพื่อใช้งานที่แข็งแรง สติปัญญาของเด็กก็จะถูกจำกัดลง
- การยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) การยั้งคิดไตร่ตรอง คือความสามารถในการตั้งสมาธิ จัดการอารมณ์และควบคุมพฤติกรรมตนเองในสถานการณ์ที่กดดัน นับเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากหากต้องการสร้างนิสัยที่ดีในวัยเด็ก หากไม่มีทักษะนี้ เด็กอาจมีปัญหาในการควบคุมพฤติกรรมและอาจถูกมองว่าเป็นคนแปลก
- การยืดหยุ่นความคิด (Cognitive Flexibility) การยืดหยุ่นความคิดคือความสามารถในการเรียนรู้ที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว และความสามารถในการเปลี่ยนมุมมอง หากขาดทักษะนี้ เด็กอาจจมอยู่กับความคิดเดิม ๆ และมีความคิดตื้นเขิน โดยอาจถูกมองว่าดื้อและทำงานด้วยยาก
คุณแม่จะสนับสนุนให้ลูกสร้าง EF ได้อย่างไร ?
ทักษะ EF ส่วนใหญ่จะพัฒนาในช่วง 5 ขวบปีแรกของลูกน้อย คุณแม่สามารถช่วยพัฒนาทักษะ EF ได้โดยการดูแลลูก ให้ความรัก ให้เขาได้เล่นอย่างเต็มที่ และให้เขาได้รับโภชนาการที่ดี การได้เล่นอย่างอิสระจะช่วยให้ลูกพัฒนาระบบการยั้งคิดไตร่ตรอง และการเล่นเกมต่าง ๆ ก็ช่วยให้เขาพัฒนาการจดจำเพื่อใช้งาน การเล่นถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการพัฒนาสมองของลูก ฝึกให้เขาจัดการข้อมูลและให้สมองทั้งฝั่งซ้ายและขวาทำงานพร้อม ๆ กัน เมื่อลูกได้พูดคุยและเล่นกับผู้อื่น เขาก็จะได้ฝึกควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้ การขยับร่างกายก็สำคัญ ตัวอย่างเช่น การเล่นฟุตบอล สถานการณ์จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตลอด การเลี้ยงลูกบอลต้องใช้ทักษะการตัดสินใจที่รวดเร็ว และจะช่วยฝึกทักษะการยืดหยุ่นความคิดได้
สิ่งเล็ก ๆ ก็ช่วยสร้างความแตกต่างในการเพิ่มทักษะ EF ได้ด้วย งานวิจัยหนึ่งพบว่าการให้เด็กเดินเท้าเปล่าทุกวัน วันละ 15 นาทีจะช่วยพัฒนาการจดจำเพื่อใช้งานของเขาได้ สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อเด็กเดินเท้าเปล่า เขาต้องฝึกทักษะการคิดหลายเรื่องพร้อมกัน