ดาวน์โหลดแอป

การให้นมบุตร คุณแม่ต้องรู้อะไรบ้างก่อนที่จะให้นมลูก

มองไปข้างหน้า

การให้นมบุตร คุณแม่ต้องรู้อะไรบ้างก่อนที่จะให้นมลูก

ลูกจะเริ่มรู้สึกหิวทันทีภายใน 2 – 3 ชั่วโมงหลังคลอด และหลังจากนี้อีกหลายเดือน เขาจะตัองพึ่งพาคุณแม่ในการรับสารอาหารทั้งหมดเพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาร่างกาย

นมแม่หรือนมผง
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าลูกควรได้รับนมแม่โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรก แต่หากคุณแม่มีความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถให้นมลูกได้ นมผงก็สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีได้

การตัดสินใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือนมผงนั้นมักขึ้นอยู่กับความสะดวกในการให้นมและวิถีชีวิตของตัวคุณแม่เอง และในบางกรณี คุณแม่บางคนก็อาจมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ทำให้ไม่สามารถให้นมลูกได้

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นมีประโยชน์หลายประการ เพราะนมแม่เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบย่อยอาหารของทารก มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิดและส่วนประกอบทั้งหมดที่จำเป็นต่อของร่างกาย เช่น แลคโตส โปรตีน (เวย์และเคซีน) และไขมัน ที่ย่อยได้ง่าย นมผงพยายามเลียนแบบนมแม่และทำให้ใกล้เคียงที่สุด แต่ยังไม่สามารถเทียบองค์ประกอบที่แน่นอนได้

นอกจากนี้ในนมแม่ยังมีแอนติบอดีที่จะช่วยปกป้องลูกจากโรคติดเชื้อหลายชนิดรวมทั้งอาการท้องร่วง และการติดเชื้อทางเดินหายใจ จากการศึกษาพบว่าทารกที่กินนมแม่ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาทางสุขภาพต่าง ๆ ในอนาคต เช่น โรคเบาหวาน โรคคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจลดโอกาสที่เด็กจะมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนอีกด้วย

การให้นมลูกยังช่วยให้คุณแม่เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น และกลับมามีรูปร่างตามปกติได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจช่วยป้องกันคุณแม่จากโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ได้อีกด้วย

ข้อจำกัดของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เนื่องจากนมแม่สามารถย่อยได้ง่าย ทารกที่ได้รับนมแม่จึงมีแนวโน้มที่จะหิวบ่อยกว่าทารกที่กินนมผง ซึ่งหมายความว่าคุณแม่อาจต้องให้นมลูกบ่อย ๆ ในทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมงในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรก แต่เพียงไม่นานลูกก็จะเริ่มลดจำนวนมื้อลง และนอนหลับได้นานขึ้นในเวลากลางคืน

ในบางกรณีปัญหาทางสุขภาพของคุณแม่อาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการให้นม ตัวอย่างเช่นคุณแม่ที่ต้องได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดสำหรับโรคมะเร็ง และคุณแม่ที่ติดเชื้อไวรัสโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เชื้อเอชไอวีไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์) จึงไม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

จะทำอย่างไรหากไม่สามารถให้นมลูกได้
หากคุณแม่มีอาการป่วยเป็นประจำ หรือจำเป็นต้องรับประทานยาเป็นประจำ หรือหากคุณแม่ หรือลูกป่วย คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสามารถให้นมได้หรือไม่ หากคุณแม่จำเป็นต้องหยุดพักเพื่อการรักษาพยาบาลชั่วคราวคุณแม่ควรปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอต่อไป เพื่อรักษาปริมาณการผลิตน้ำนมของคุณแม่เอาไว้

ในบางสถานการณ์อาจเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น เมื่อลูกป่วยหรือคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปั๊มและเก็บนม แม้ว่าลูกจะไม่สามารถได้รับนมจากอกของคุณแม่ได้โดยตรง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับผ่านทางสายยางให้อาหารหรือขวดนม

การเลี้ยงลูกด้วยนมผง
นมผงสำเร็จรูปที่มีขายในท้องตลาดเป็นทางเลือกที่ดี และมีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะแก่การเลี้ยงทารกที่ไม่สามารถได้รับนมแม่ และช่วยให้รู้ได้ง่ายว่าเขาได้รับนมเข้าไปมากเท่าไหร่ในแต่ละมื้อ

เนื่องจากทารกย่อยนมผงได้ช้ากว่านมแม่ เพราะฉะนั้นทารกที่ได้รับนมผงมักจะกินนมไม่บ่อยเท่ากับเด็กที่กินนมแม่ นอกจากนี้ ทารกบางคนก็เหมาะกับนมผงที่ทำจากนมแพะ แต่บางคนเหมาะกับนมผงที่ทำจากนมวัวมากกว่า

ข้อจำกัดของการเลี้ยงลูกด้วยนมผง
ถึงแม้นมผงนั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่คุณแม่ควรแน่ใจว่าได้เตรียมนมผงไว้อย่างเพียงพอ และมีขวดนมที่พร้อมใช้ในการให้นมลูกอยู่เสมอ

คำแนะนำสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมผง

ข้อควรระวัง
การอุ่นนม ไม่ว่าจะเป็นนมผง หรือนมแม่ ไม่ควรอุ่นด้วยเตาไมโครเวฟ เนื่องจากเตาไมโครเวฟให้ความร้อนไม่สม่ำเสมอ ทำให้อาจมีบางจุดที่ร้อนเกินไป และอาจลวกปากของลูกได้

เมื่อไหร่ควรจะหยุดให้นม
ลูกจะสามารถรับประทานอาหารที่เป็นของแข็งได้หลังจากอายุประมาณ 6 เดือน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือการให้นมผงควรดำเนินต่อไปในช่วงขวบปีแรก ๆ ของชีวิต ยังมี คุณแม่บางคนเลือกที่จะให้นมแม่เป็นอาหารเสริมจนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียน

รับรองโดย:

พญ.วรรวดี ทรัพย์มี ปัญญากาศ (สูตินรีแพทย์) (5 มกราคม 2019)

ที่มา:

ดาวน์โหลดแอปMali Daily Pregnancy Tracker

แม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์

เรตติ้ง 4.9 จากผู้ใช้งานกว่า 10,000+ คน

เรตติ้ง 4.9 จากผู้ใช้งานกว่า 10,000+ คน