วิธีให้นมลูกช่วงอายุ 1 – 3 เดือน
การให้อาหารลูก
ในช่วง 3 เดือนแรก ลูกควรได้รับสารอาหารจากน้ำนมคุณแม่หรือนมผง ในขณะที่ ลูกกำลังเติบโต นิสัยการทานนมของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
คุณแม่อาจสังเกตเห็นว่า ลูกจะมีความอยากอาหารเป็นพิเศษและดูดนมนานกว่าเดิม เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องให้นมลูกบ่อยเท่าที่เคย พวกเขายังนอนหลับได้นานขึ้นในตอนกลางคืนอีกด้วย
ในขณะที่ลูกน้อยกำลังเจริญเติบโต ควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของความอยากอาหาร ปรับปริมาณการให้นมตามความเหมาะสมและเพิ่มเวลาให้นมบ่อยขึ้นเมื่อลูกต้องการ
จะทราบได้อย่างไรว่าลูกน้อยหิวหรืออิ่ม?
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อทารกรู้สึกอิ่มพวกเขาจะหยุดกินนม เบี่ยงหน้าหนีไปจากเต้านมหรือขวดนม หรือดูดนมช้าลง ถึงแม้ว่าความอยากอาหารของเด็กทารกแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป แต่ก็มีคำแนะนำคร่าว ๆ ในการให้น้ำนมแม่หรือนมผงแก่ลูกน้อยดังนี้:
การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่:
เมื่อลูกเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขาจะดูดนมนานกว่าเดิมแต่น้อยครั้งลง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกได้รับประทานนมอย่างเต็มที่ ให้มองหาสัญญาณบ่งบอกดังต่อไปนี้:
- มีความอยากเล่น ตื่นตัว และพึงพอใจ
- ทานนม 6-8 ครั้งต่อวัน
- ร่างกายเติบโต น้ำหนักเพิ่มขึ้น และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
- ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะเป็นประจำ
หากลูกน้อยดูหงุดหงิด ร้องไห้เป็นประจำหรือดูไม่พอใจถึงแม้ว่าจะให้ทานนมแล้วก็ตาม นั่นอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขายังอิ่ม หากคุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลควรสอบถามกุมารแพทย์
หลังจากการคลอดในไม่กี่สัปดาห์ทารกที่กินน้ำนมแม่อย่างเดียวมีแนวโน้มที่จะขับถ่ายน้อยลง เมื่ออายุสองเดือนลูกน้อยของคุณอาจไม่ขับถ่ายหลังดูดนมทุกมื้อหรือแม้กระทั่งทุกวัน
การเลี้ยงลูกด้วยนมผง:
เนื่องจากทารกสามารถย่อยนมผงได้ช้ากว่าน้ำนมแม่ พวกเขาอาจทานนมไม่บ่อยเท่าทารกที่ถูกเลี้ยงด้วยน้ำนมแม่ ในช่วงเดือนที่สองทารกอาจต้องการนมมากถึง 120 – 150 ซีซี ในการให้นมแต่ละครั้ง และภายในเดือนที่สามอาจต้องการเพิ่มอีก 30 ซีซี
เนื่องจากการดูดนมจากขวดนั้นง่ายกว่าดูดจากเต้า ลูกน้อยของคุณอาจดื่มนมมากเกินความต้องการได้ง่าย เพื่อป้องกันเรื่องนี้จุกนมที่ใช้กับขวดนมควรมีขนาดที่เหมาะสมตามช่วงวัย เวลาเทนมออกจากจุกนั้นน้ำนมควรหยดผ่านรูได้อย่างช้า ๆ และคุณพ่อคุณแม่ควรหยุดป้อนนมเมื่อลูกน้อยส่งสัญญาณว่าอิ่มแล้ว
ลูกสำรอกนม ควรกังวลหรือไม่?
การที่ทารกน้อยสำรอกนมออกมาเล็กน้อยในระหว่างให้นมหรือระหว่างเรอและเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังการให้นมนั้นถือเป็นเรื่องปกติ หากนมที่ไหลออกมาจากปากนั้นค่อย ๆ ไหลออกมาช้า ๆ
เพื่อลดอาการสำรอกนม คุณแม่สามารถลองวิธีเหล่านี้ได้:
- หลีกเลี่ยงการให้นมมากเกินไป
- ให้ลูกน้อยเรอบ่อย ๆ
- ให้ลูกทานนมก่อนที่พวกเขาจะหิวมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการเล่นที่หนักหน่วงจนเกินไปหลังให้นม
- ให้ลูกน้อยอยู่ในท่าหัวตั้งตรงระหว่างการให้นมและพยายามให้เขาอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรติดต่อแพทย์หากคุณสังเกตเห็นว่าทารกน้อยของคุณมีอาการดังต่อไปนี้:
- สำรอกนมเป็นปริมาณมาก
- มีอาการหงุดหงิดโยเยระหว่างและหลังการให้นม
- อาเจียนนมพุ่งออกมา
- น้ำหนักลดหรือไม่เพิ่มตามที่คาดหวัง
ควรติดต่อแพทย์หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือความกังวลเกี่ยวกับการทานนมของลูกน้อยเพิ่มเติม
รับรองโดย:
นพ. ปิยวุฒิ กรีฑาภิรมย์ (8 กรกฎาคม 2021)