คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง

โดยปกติแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ 7 ใน 10 คน จะมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ประมาณ 1 ใน 100 คน จะมีอาการอาเจียนมากเกินไปหรือรู้จักกันในชื่อ อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง คุณแม่ตั้งครรภ์กลุ่มนี้มักต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้

อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงเป็นอย่างไร?

• คลื่นไส้และอาเจียนอย่างรุนแรง
• ขาดน้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการมีของเหลวไม่เพียงพอในร่างกาย เพราะไม่สามารถดื่มน้ำได้
• เกิดภาวะคีโตซีส ซึ่งเป็นภาวะที่ร้ายแรง ส่งผลให้เกิดการสะสมของสารเคมีที่เป็นกรดในเลือดและปัสสาวะ 
• น้ำหนักลด
• ความดันโลหิตต่ำเวลายืน

วิธีรับมือกับอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง?
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงแตกต่างจากการแพ้ท้องปกติ อาการนี้อาจไม่ดีขึ้นภายใน 14 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ และอาจมีอาการไปจนกว่าจะคลอดได้ แม้ว่าอาการบางอย่างอาจดีขึ้นในประมาณสัปดาห์ที่ 20 ก็ตาม หากคุณแม่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนอย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์

สาเหตุของอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง
ยังไม่มีใครรู้ว่าอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงเกิดจากสาเหตุใด หรือทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์บางคนจึงมีอาการนี้ แพทย์บางคนเชื่อว่าอาจเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์

วิธีรักษาอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง
ยาปลอดภัยที่สามารถใช้บรรเทาอาการของอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง ได้แก่:

• ยาแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน
• วิตามิน (B6 และ B12)
• สเตียรอยด์

จากการศึกษาพบว่ายิ่งคุณแม่เริ่มรักษาอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงเร็วเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการรักษาก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น คุณแม่อาจต้องทดลองใช้ยาชนิดต่าง ๆ ไปจนกว่าจะพบยาที่เหมาะที่สุดกับตัวคุณแม่เอง และควรปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยาทุกครั้ง

เมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์?
หากคุณแม่ไม่สามารถควบคุมการอาเจียนได้ คุณแม่อาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจประเมินอาการ และให้การรักษาที่ถูกต้อง เพื่อปกป้องตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์

อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์หรือไม่?
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดี แต่ถือเป็นข่าวดีที่อาการนี้ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ แต่หากคุณแม่น้ำหนักลดในระหว่างตั้งครรภ์ อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกน้อยคลอดออกมาโดยมีน้ำหนักน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

คุณแม่อาจต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงสามารถส่งผลกระทบต่อคุณแม่ทั้งทางด้านอารมณ์และร่างกาย อาการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การดำเนินชีวิตตามปกติเป็นไปอย่างยากลำบาก  แต่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่อสุขภาพ เช่น ภาวะซึมเศร้า อาการนี้ยังอาจสร้างความเจ็บป่วยที่ทำให้เหนื่อยล้า และทำให้คุณแม่ไม่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้ คุณแม่อาจรู้สึกว่า:

• กังวลเกี่ยวกับการออกไปข้างนอก หรืออยู่ไกลจากบ้านเพราะอาจเกิดการอาเจียนได้ตลอดเวลา
• รู้สึกโดดเดี่ยวและสับสนว่าทำไมอาการนี้จึงเกิดขึ้นกับตัวคุณแม่
• ไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับการตั้งครรภ์ไปจนคลอดได้ หากยังคงมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง

การรับความช่วยเหลือทางด้านอารมณ์
ปรึกษากับคุณพ่อ คนในครอบครัว หรือคุณหมอ และอธิบายถึงผลกระทบของอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงที่มีต่อชีวิตของคุณแม่และบอกเล่าความรู้สึกของคุณแม่