การกลืนกินสิ่งแปลกปลอม
วิธีปฐมพยาบาลเด็ก
ในบางครั้งเด็ก ๆ ก็อาจกลืนของชิ้นเล็ก ๆ เช่น ของเล่นขนาดเล็ก หรือเหรียญเล็ก ๆ ส่วนใหญ่สิ่งของพวกนี้ไม่เป็นอันตราย เนื่องจากมันสามารถผ่านระบบย่อยอาหารและถูกขับถ่ายออกมาพร้อมกับอุจจาระได้
แต่หากวัตถุติดอยู่ในหลอดอาหาร วัตถุเหล่านั้นอาจไม่สามารถผ่านเข้าไปในกระเพาะอาหารได้ จึงจำเป็นต้องให้แพทย์ทำการช่วยนำออกให้
เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
- มีปัญหาด้านการหายใจ: การมีวัตถุปิดกั้นทางเดินหายใจนั้นคือเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์อย่างแน่นอน คุณแม่ควรโทรเรียกรถพยาบาลทันทีและทำการรัดกระตุกหน้าท้อง อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
- แบตเตอรี่: หากเด็กกลืนแบตเตอรี่แบบกระดุมลงไป และติดอยู่ภายในหลอดอาหาร แบตเตอรี่อาจเกิดปฏิกิริยาเผาไหม้เนื้อเยื่อได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้เกิดการบาดเจ็บอย่างรุนแรงหรือเสียชีวิตได้
- แม่เหล็ก: การกลืนแม่เหล็กอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเด็กกลืนแม่เหล็ก 2 ก้อนหรือมากกว่าเข้าไปด้วยกัน
- สารพิษ: หากเด็กกลืนกินสิ่งที่เป็นพิษ หรือสารพิษ คุณแม่ควรรีบโทรเรียกรถฉุกเฉิน หรือรีบพาไปโรงพยาบาลทันที
สัญญาณบ่งบอกว่าเด็กกลืนวัตถุแปลกปลอมเข้าไป
เด็กส่วนใหญ่มักไม่มีอาการผิดปกติหลังจากกลืนวัตถุแปลกปลอมเข้าไป แต่บางครั้งสิ่งที่กลืนเข้าไปอาจติดอยู่บริเวณหลอดอาหารและเด็กอาจมีอาการดังต่อไปนี้:
- มีปัญหาในการกลืนอาหาร
- น้ำลายไหล
- เจ็บปวดบริเวณหน้าอกหรือลำคอ
บางครั้งวัตถุแปลกปลอมที่กลืนลงไปนั้นอาจติดอยู่ภายในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ (ซึ่งพบได้ยาก) หากเกิดกับลูกของคุณแม่ ให้รีบพาลูกไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล เมื่อพบว่าลูกน้อยมีอาการดังต่อไปนี้:
- อาเจียนอย่างต่อเนื่อง
- ปวดท้อง
- มีเลือดปนมากับอาเจียนหรืออุจจาระ
- มีไข้
หากลูกน้อยมีอาการไอ หรือมีปัญหาในการหายใจควรโทรเรียกรถพยาบาลทันที
รับรองโดย:
นพ. ปิยวุฒิ กรีฑาภิรมย์ (2 กุมภาพันธ์ 2020)