ดาวน์โหลดแอป

นมเด็กผ่าคลอดยี่ห้อไหนดี? เสริมพัฒนาการสมองพร้อมภูมิคุ้มกันให้เจ้าตัวเล็ก

Mali รีวิว

นมเด็กผ่าคลอดยี่ห้อไหนดี? เสริมพัฒนาการสมองพร้อมภูมิคุ้มกันให้เจ้าตัวเล็ก

คุณแม่สามารถเตรียมความพร้อมของลูกน้อยผ่าคลอดได้ด้วย ‘นมแม่’ เพราะอุดมด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

สำหรับคุณแม่ที่น้ำนมน้อยการเสริมเจ้าตัวเล็กด้วยนมผงควบคู่ไปกับนมแม่สามารถตอบโจทย์คุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กผ่าคลอดอาจต้องเน้นสารอาหารที่ช่วยเสริมการพัฒนาด้านสมองและระบบภูมิคุ้มกันเป็นพิเศษ 

โดยวันนี้ มะลิ ได้รวบรวมข้อมูลของนมผงสำหรับเด็กผ่าคลอด 3 แบรนด์ดังมาให้คุณแม่แล้ว เพื่อช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น  

นมผงสำหรับเด็กผ่าคลอดยี่ห้อไหนดี? ประจำปี 2025

เอส-26 โกลด์ โปร-ซี สูตร 3 นมสูตรใหม่ ที่มีการพัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น โดยโดดเด่นด้านสารอาหารทางสมองสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่อย่างแอลฟา สฟิงโกไมอิลิน และดีเอชเอ (DHA) และเสริมภูมิคุ้มกันด้วย โพรไบโอติก บี แล็กทิส และ 2’-FL

 ไฮคิว พลัส ซูเปอร์โกลด์ พลัส ซี สูตร 3

ไฮคิว พลัส ซูเปอร์โกลด์ พลัส ซี สูตร 3 นมผงสำหรับเด็กผ่าคลอด เน้นในเรื่องของการเสริมภูมิคุ้มกัน โดยมีการเพิ่มโพรไบโอติก และโพรไบโอติกสายพันธุ์ B.Breve M-16V รวมถึงสารอาหารเสริมสมองอย่าง สฟิงโกไมอีลิน และดีเอชเอ

เอนฟาโกร เอพลัส ซี-ไบโอม สูตร 3

เอนฟาโกร เอพลัส ซี-ไบโอม สูตร 3 นมผงเน้นในเรื่องของการพัฒนาสมอง มีสารอาหารสำคัญได้แก่ MFGM DHA และ สฟิงโกไมอีลิน ส่วนสารอาหารเสริมภูมิคุ้มกันได้แก่ใยอาหาร 2′-FL และ FOS

ตารางเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารนมผงเด็กผ่าคลอด ต่อ 1 แก้ว

สารอาหารเด่นเอส-26 โกลด์ โปร-ซีไฮคิว พลัส ซูเปอร์โกลด์ พลัส ซีเอนฟาโกร เอพลัส ซี-ไบโอม
สารอาหารพัฒนาสมอง
สฟิงโกไมอีลิน
แอลฟาแล็คตัลบูมิน
แกงกลิโอไซด์
โคลีน
ดีเอชเอ (DHA)
โอเมก้า 3,6,9
สารอาหารเด่นเสริมภูมิคุ้มกัน
โพรไบโอติก
B. lactis

B. breve M-16V

 

เตรียมความพร้อมลูกน้อยอย่างไร เมื่อแม่ต้องผ่าคลอด?

เพราะเด็กผ่าคลอดต้องได้รับการดูแลที่เป็นพิเศษ โดยงานวิจัยของ SC Deoni และคณะที่เผยแพร่ในปี 2019 พบว่าการผ่าคลอดอาจส่งผลต่อพัฒนาการของสมองทารกได้ นอกจากนี้ การผ่าคลอด ยังอาจทำให้เด็กเสี่ยงต่อการมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันและมีโอกาสเป็นโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ง่ายขึ้น ดังนั้น คุณแม่ควรให้ลูกน้อยกินนมแม่ให้เร็วและนานที่สุด โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ แนะนำว่าลูกควรได้กินนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องไปจนลูกอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม เนื่องจากองค์ประกอบด้านโภชนาการของนมแม่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านการเจ็บป่วย นอกจากนี้ สารอาหารและวิตามินจากน้ำนมแม่ยังช่วยให้พัฒนาการของสมองลูกน้อยและเซลล์ประสาททำงานได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย

เตรียมความพร้อมลูกน้อยอย่างไร เมื่อแม่ต้องผ่าคลอด?

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ประสบปัญหาน้ำนมไม่เพียงพอและมีความจำเป็นต้องใช้นมเสริมสำหรับเด็ก อาจพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์นมที่มีส่วนผสมของสารอาหารในนมแม่ที่เน้นการเสริมพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันเป็นหลัก เช่น 

แม้ว่านมสูตร 3 จะถูกพัฒนาขึ้นให้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองให้เหมาะสมกับช่วงวัย แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการให้นมแม่ควบคู่กับอาหารที่หลากหลายและสมดุล ไม่เพียงช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหาร และพัฒนาการโดยรวมของเด็กได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่มีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อหาทางเลือกสำหรับลูกน้อยที่เหมาะสม

หมายเหตุ: มะลิมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่เชื่อถือได้สำหรับคุณแม่ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรับประกันความถูกต้องหรือความครบถ้วนของเนื้อหาที่ให้ไว้ได้ เนื่องจากข้อมูลอาจมีการอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงตามเวลา เราขอแนะนำให้ผู้อ่านตรวจสอบรายละเอียดด้วยตนเองและไม่สามารถรับผิดชอบต่อความไม่ถูกต้องใด ๆ โดยข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ถูกอ้างอิงมากจากเว็ปไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์นั้น ๆ

วันที่: 02/05/2025

ดาวน์โหลดแอปMali Daily Pregnancy Tracker

แม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์

เรตติ้ง 4.9 จากผู้ใช้งานกว่า 10,000+ คน

เรตติ้ง 4.9 จากผู้ใช้งานกว่า 10,000+ คน