รวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับอาการแพ้ท้อง
คุณแม่
แพ้ท้อง เป็นคำที่ใช้ในการเรียกอาการ เช่นคลื่นไส้ อาเจียน การไม่ชอบอาหารบางชนิด และความเมื่อยล้าอ่อนเพลีย ซึ่งพบได้ทั่วไปในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ประมาณ 50% ของคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องได้พบกับประสบการณ์นี้
หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้อง คุณแม่อาจตื่นขึ้นมาและรู้สึกไม่ดีหรือรู้สึกสบายดีจนกระทั่งได้กลิ่นบางอย่างที่มากระตุ้นอาการ กลิ่นที่กระตุ้นอาจเป็นสิ่งที่คุณแม่เคยชอบก่อนหน้านี้ คุณแม่บางคนอาจต้องอาเจียนเมื่อพวกเธอได้กลิ่นหม้อหุงข้าว มะละกอ หรือแม้กระทั่งกลิ่นของคุณสามี
เมื่อไหร่ที่อาการแพ้ท้องจะเริ่มจู่โจม
อาการแพ้ท้องอาจเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลาของวัน และสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 3 สัปดาห์หลังจากการปฏิสนธิ
อาการแพ้ท้องอยู่นานเท่าไหร่
อาการแพ้จะคงอยู่ไปจนกระทั่งถึงสัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์ และจะค่อย ๆ ลดลงในตอนท้ายของไตรมาสแรกสำหรับคุณแม่ส่วนใหญ่ แต่บางคนอาจมีอาการอาการคลื่นไส้ อาเจียนไปตลอดทั้งช่วงการตั้งครรภ์ นี่เป็นอาการที่เรียกว่าการแพ้ท้องอย่างรุนแรง (hyperemesis gravidarum) และอาจนำไปสู่การขาดน้ำได้ ดังนั้นคุณแม่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเมื่อเห็นว่าอาการคลื่นไส้อาเจียนยาวนานเกินไป
สาเหตุของการอาการแพ้ท้อง
ผู้เชี่ยวชาญยังคงไม่ค่อยแน่ใจว่าอาการแพ้ท้องนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แพทย์บางคนคิดว่าอาการแพ้ท้องเป็นสัญญาณที่ดี เพราะนั่นหมายความว่าทารกกำลังพัฒนาได้เป็นอย่างดี มีหลายคนเชื่อว่าระดับของฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นเช่น hCG และเอสโตรเจน อาจมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง และยังมีความเป็นไปได้อื่น ๆ ซึ่ง ได้แก่ การมีจมูกไวต่อการได้กลิ่น และการมีระบบทางเดินอาหารที่ไวต่อการถูกกระตุ้น
จะรับมือกับอาการแพ้ท้องได้อย่างไร
พยายามรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 เช่น อะโวคาโด หรือกล้วย การรับประทานวิตามินบีอาจช่วยลดอาการคลื่นไส้ของคุณแม่ได้ แต่ไม่สามารถช่วยป้องกันคุณแม่จากการอาเจียนได้ และการใช้วิตามินบี 6 ก็ไม่มีผลกระทบที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ ปริมาณวิตามินบี 6 ที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องคือ 10 – 25 มิลลิกรัม และรับประทาน 3 ครั้งต่อวัน แต่หากคุณแม่มีแผนว่าจะใช้ยาอย่างอื่นร่วมด้วย คุณแม่ควรตรวจสอบกับคุณหมอให้แน่ใจก่อน เพราะยาบางชนิดอาจเป็นอันตรายหากใช้ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์
วิธีอื่น ๆ ในการรับมือกับอาการแพ้ท้อง
- รับประทานอาหารครั้งละน้อย ๆ แต่เพิ่มจำนวนมื้อให้มากขึ้น
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก และผลไม้
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป และอาหารที่มีไขมันมากๆ
- ดื่มน้ำเยอะๆ
- ดื่มน้ำขิง หรือชาขิง ขิงมีคุณสมบัติต้านอาการคลื่นไส้ตามธรรมชาติที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง
- หากคุณแม่ไม่สามารถทนต่อกลิ่นบางอย่างได้ ให้ลองหาของที่มีกลิ่นสดชื่นพกติดตัวไว้ เช่น มะนาว ยาดม หรือกลิ่นอื่น ๆ