ท้องเสียในขณะตั้งครรภ์อันตรายหรือไม่

คุณแม่หลาย ๆ คนมีอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายของทั้งคุณแม่ และลูกขาดน้ำหรือสารอาหารได้

อาการท้องเสีย หมายถึงมีการถ่ายอุจจาระเหลว 3 ครั้งหรือมากกว่าภายในเวลา 24 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในอาการที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดในขณะตั้งครรภ์

ท้องเสียมีผลกระทบต่อคุณแม่อย่างไร?
คุณแม่อาจสูญเสียน้ำในร่างกายเป็นจำนวนมากหากมีอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีต่อทั้งตัวคุณแม่เองและลูก อาการขาดน้ำอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นคุณแม่จะต้องแน่ใจว่า ได้รับน้ำเข้าไปทดแทนปริมาณน้ำที่สูญเสียไปอย่างเพียงพอ

อะไรคือสาเหตุของอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์?
การตั้งครรภ์และท้องเสียมีความเกี่ยวข้องกันบางอย่าง เมื่อคุณแม่พบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ คุณแม่อาจต้องเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารอย่างกะทันหัน เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ซึ่งบางครั้งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง หรือท้องเสียได้

อีกเหตุผลหนึ่งที่อาจทำให้คุณแม่มีอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์ก็คือ คุณแม่เป็นคนที่ไวต่ออาหารบางประเภท แม้อาหารเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่รับประทานบ่อยครั้ง แต่การรับประทานอาหารเหล่านั้นในขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นสาเหตุให้คุณแม่ปวดท้องหรือท้องเสียได้

อีกสาเหตุหนึ่งของอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์คือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรืออาจเนื่องมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส

รักษาอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์
ส่วนใหญ่อาการท้องเสียจะหายไปได้เองภายใน 2 – 3 วัน แต่คุณแม่ควรแน่ใจว่าได้รับน้ำมากเพียงพอ ด้วยการดื่มน้ำ น้ำผลไม้ หรือน้ำซุปใส เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปให้กับร่างกาย น้ำจะช่วยเติมเต็มของเหลวที่คุณแม่สูญเสียไป น้ำผลไม้จะช่วยเพิ่มระดับโพแทสเซียม และน้ำซุปใสจะช่วยเติมโซเดียมให้กับร่างกายของคุณแม่ได้ เป็นที่ทราบกันว่า น้ำซุปใสสามารถช่วยแก้อาการท้องเสียได้ดี

หากอาการท้องเสียไม่หายไปเอง คุณแม่อาจต้องไปพบคุณหมอ หากอาการท้องเสียในขณะตั้งครรภ์ของคุณแม่เกิดจากแบคทีเรียหรือปรสิต คุณแม่อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ แต่หากอาการท้องเสียเกิดจากเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะจะไม่สามารถรักษาให้หายได้