สัปดาห์ที่ 36 ของการตั้งครรภ์

ในสัปดาห์นี้ปอดของลูกพัฒนาจนสมบูรณ์ และต่อจากนี้เขาจะสามารถหายใจได้ด้วยตัวเองแล้ว

เมื่อครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ได้ไปกดทับลงบน กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (pelvic floor muscle) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการปัสสาวะและการคลอด อาจทำให้คุณแม่มีอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อหัวเราะหรือจามได้

ลูกเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อสัปดาห์นี้สิ้นสุด การตั้งครรภ์นั้นได้ถือว่าดำเนินการไปถึงระยะใกล้คลอดแล้ว พัฒนาการของลูกจะเหลือเพียงการสะสมไขมันในร่างกายเท่านั้น ในตอนนี้เขามีน้ำหนักประมาณ 2.4 กก. ความยาวประมาณ 47 ซม. หรือขนาดประมาณหน่อไม้

อวัยวะ: ถึงแม้ว่าอวัยวะส่วนใหญ่จะพัฒนาได้สมบูรณ์แล้ว รวมไปถึงปอดและระบบย่อยอาหาร แต่อวัยวะเหล่านี้จะยังไม่เริ่มทำงาน ซึ่งปอดจะเริ่มทำงานครั้งแรกเมื่อลูกคลอดออกมา ส่วนระบบย่อยอาหารจะเริ่มทำงานเมื่อลูกน้อยเริ่มดื่มนมจากเต้าของคุณแม่

ไขปกป้องผิว: ไขสีขาวที่เคลือบผิว (vernix caseosa) ยังคงเคลือบอยู่บนผิวของลูกเพื่อปกป้องเขาจากน้ำคร่ำ และเป็นสารหล่อลื่นตามธรรมชาติที่ช่วยให้เขาผ่านช่องคลอดออกมาได้ง่ายขึ้น

ถ้าในตอนนี้ลูกยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่น่าพอใจ เช่น เขายังอยู่ในตำแหน่งท่าก้น คุณหมออาจแนะนำวิธีปฏิบัติที่คุณแม่สามารถทำได้ เพื่อช่วยให้ลูกเคลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งสำหรับพร้อมคลอด

คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง
เพราะแรงที่กดทับลงบนกระเพาะปัสสาวะนั้นเพิ่มขึ้น คุณแม่อาจมีอาการปัสสาวะเล็ดออกมาเล็กน้อย คุณแม่สามารถฝึกขมิบกลั้นปัสสาวะเพื่อควบคุมไม่ให้ปัสสาวะเล็ดออกมาขณะไอหรือจามได้

ส่วนอาการเจ็บหลอก หรือ Braxton Hicks นั้นก็อาจถี่ขึ้นด้วย

การเคลื่อนไหวที่ลดลง: คุณแม่อาจรู้สึกว่าลูกเตะน้อยลงจากเมื่อก่อน เนื่องจากเขามีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น ทำให้พื้นที่ในครรภ์น้อยลง ลูกจึงขยับตัวได้ยากขึ้น แต่คุณแม่จะรู้สึกถึงการยืดตัว ม้วนตัว หรือกระดุกกระดิกแทน

ทำอะไรได้บ้างในช่วงนี้
เมื่อกำหนดคลอดใกล้เข้ามา คุณแม่ควรรู้ว่ามีอาการอะไรบ้างที่เป็นสัญญาณของการคลอด สัญญาณเหล่านี้ได้แก่ การบีบตัวของมดลูกที่ถี่และนานขึ้น มีอาการท้องเสีย หรือ มีอาการน้ำเดิน คุณแม่ต้องแยกให้ออกว่าน้ำที่ออกมานั้นเป็นปัสสาวะหรือน้ำคร่ำ ถ้าเป็นน้ำคร่ำ ของเหลวจะมีสีที่ใสกว่าและไม่มีกลิ่นแอมโมเนียหมือนกับปัสสาวะ

โปรดทราบ
ทางทีมงานMali ได้พยายามรวบรวมข้อมูลที่อัปเดทล่าสุดมาให้กับคุณแม่หรือผู้อ่านแล้ว แต่ทั้งนี้ยังคงมีข้อสงสัยหลายอย่างที่ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ยังคงต้องหาคำตอบต่อไปเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และพัฒนาการของทารกในครรภ์ ทางทีมเราจึงต้องการแจ้งให้ทราบว่าข้อมูลที่นำเสนออาจไม่ครอบคลุมเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการตั้งครรภ์ของแต่ละบุคคลหรือเด็กแต่ละคน