มารดาที่จะได้รับการฉีด RhoGAM คือมารดาที่มีหมู่เลือดเป็น Rh ลบ หรือที่เรียกว่า Rh negative ค่ะ โดยปกติแล้วคนส่วนมากจะมีหมู่ Rh เป็นบวกค่ะ หากได้รับเลือด Rh ลบ เข้าสู่ร่างกาย ถือเป็นสิ่งแปลกปลอมทำให้เกิดอันตรายได้ เช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ เลือดลูกกับเลือดแม่ สามรถเกิดการปะปนกันได้ ในช่วงที่คลอด โดยการฉีด RhoGAM จะเป็นการฉีดเพื่อป้องกันภาวะต่าง ๆ ที่จะเกิดกับทารก เนื่องจาก ถ้ามารดาที่มีหมูเลือดเป็น Rh ลบ ส่วนลูกเป็น Rh บวก ร่างกายของมารดาจะมีการผลิดแอนติบอดี้เก็บไว้ ลูกคนแรกที่เป็น Rh บวก คลอดแล้วอาจไม่เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการตั้งครรภ์ครั้งที่สองเกิดขึ้น แล้วเลือดของลูกในครรภ์ที่สองเป็น หมู่ Rh บวก แม่ที่เคยมีการผลิตแอนติบอดี้ไปแล้วตั้งแต่ครรภ์แรก ตัวแอนติบอดี้ที่แม่สร้างสามารถผ่านรกไปจับกับเลือดลูกได้ เนื่องจากเลือดลูกกับเลือดแม่เป็นคนละหมู่กัน จึงถือเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ทำให้ทารกมีอาการ ซีด เสียชีวิต และแท้งได้ค่ะ การฉีด RhoGAM ขณะตั้งครรภ์จะฉีดด้วยกัน 2 ครั้ง ครั้งแรก ตอนอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ เนื่องจากตัวยาสามารถอยู่ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ หากยังไม่คลอดภายหลังจากได้ครั้งแรก 12 สัปดาห์ ควรได้รับยาอีกครั้ง ส่วนเข็มที่สองจะทำการฉีดหลังจากคลอดแล้ว เวลาที่เหมาะสม คือ ภายใน 72 ชั่วโมงหลังคลอด ถ้าหากให้ภายใน 13 วันหลังคลอดจะสามารถป้องกันได้บางส่วน และระยะเวลาช้าที่สุดที่คิดว่ายังมีประโยชน์คือ 28 วันหลังคลอดค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมแนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งนะคะ
ดาวน์โหลดแอป
เรตติ้ง 4.8 จากผู้ใช้งานกว่า 5,000+ คน
ทีมมะลิ
มารดาที่จะได้รับการฉีด RhoGAM คือมารดาที่มีหมู่เลือดเป็น Rh ลบ หรือที่เรียกว่า Rh negative ค่ะ โดยปกติแล้วคนส่วนมากจะมีหมู่ Rh เป็นบวกค่ะ หากได้รับเลือด Rh ลบ เข้าสู่ร่างกาย ถือเป็นสิ่งแปลกปลอมทำให้เกิดอันตรายได้
เช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ เลือดลูกกับเลือดแม่ สามรถเกิดการปะปนกันได้ ในช่วงที่คลอด โดยการฉีด RhoGAM จะเป็นการฉีดเพื่อป้องกันภาวะต่าง ๆ ที่จะเกิดกับทารก เนื่องจาก ถ้ามารดาที่มีหมูเลือดเป็น Rh ลบ ส่วนลูกเป็น Rh บวก ร่างกายของมารดาจะมีการผลิดแอนติบอดี้เก็บไว้ ลูกคนแรกที่เป็น Rh บวก คลอดแล้วอาจไม่เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการตั้งครรภ์ครั้งที่สองเกิดขึ้น แล้วเลือดของลูกในครรภ์ที่สองเป็น หมู่ Rh บวก แม่ที่เคยมีการผลิตแอนติบอดี้ไปแล้วตั้งแต่ครรภ์แรก ตัวแอนติบอดี้ที่แม่สร้างสามารถผ่านรกไปจับกับเลือดลูกได้ เนื่องจากเลือดลูกกับเลือดแม่เป็นคนละหมู่กัน จึงถือเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ทำให้ทารกมีอาการ ซีด เสียชีวิต และแท้งได้ค่ะ
การฉีด RhoGAM ขณะตั้งครรภ์จะฉีดด้วยกัน 2 ครั้ง ครั้งแรก ตอนอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ เนื่องจากตัวยาสามารถอยู่ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ หากยังไม่คลอดภายหลังจากได้ครั้งแรก 12 สัปดาห์ ควรได้รับยาอีกครั้ง
ส่วนเข็มที่สองจะทำการฉีดหลังจากคลอดแล้ว เวลาที่เหมาะสม คือ ภายใน 72 ชั่วโมงหลังคลอด ถ้าหากให้ภายใน 13 วันหลังคลอดจะสามารถป้องกันได้บางส่วน และระยะเวลาช้าที่สุดที่คิดว่ายังมีประโยชน์คือ 28 วันหลังคลอดค่ะ
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมแนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งนะคะ