ภาวะปากมดลูกสั้น : ปัญหา, การวินิจฉัย และการรักษา
เกร็ดความรู้
ภาวะปากมดลูกสั้น เป็นหนึ่งในปัญหาหลาย ๆ อย่างที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อการตั้งครรภ์ได้
หากตรวจพบปัญหานี้ได้แต่เนิ่น ๆ จะทำให้การรักษาง่ายขึ้น และทำให้ผลการคลอดเป็นที่น่าพอใจมากขึ้นได้
ปากมดลูกสั้น และภาวะปากมดลูกเปิดโดยไม่มีการเจ็บครรภ์คืออะไร
ภาวะปากมดลูกสั้น คือภาวะที่หญิงตั้งครรภ์มีปากมดลูกสั้นกว่าปกติ ซึ่งอาจสังเกตเห็นได้จากการอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด ซึ่งเป็นการตรวจตามปกติสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
ภาวะปากมดลูกสั้น และภาวะปากมดลูกเปิดโดยไม่มีการเจ็บครรภ์ส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร
ปากมดลูกที่สั้นกว่าปกติจะทำให้ความสามารถในการปกป้องทารกในครรภ์ลดลง และทำให้ปากมดลูกเปิดเร็วเกินไป หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาวะปากมดลูกเปิดโดยไม่มีการเจ็บครรภ์
โดยสรุปแล้วการมีปากมดลูกสั้นจะเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งบุตร ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และการคลอดก่อนกำหนด การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดทำให้เกิดความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ทารกเสียชีวิตในครรภ์ น้ำหนักแรกเกิดน้อย เลือดออกในสมอง และความพิการระยะยาว
สัญญาณของภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ผู้หญิงหลายคนที่มีอาการภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดอาจไม่พบสัญญาณเตือนใด ๆ แต่บางคนอาจรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย หรือมีเลือดออกในช่วงสัปดาห์ที่ 14 – 20 ของการตั้งครรภ์ บางคนอาจมีอาการต่อไปนี้ด้วย
- รู้สึกมีแรงกดที่เชิงกราน
- ปวดหลัง
- ปวดบีบที่ช่องท้อง
- สารคัดหลั่งจากมดลูกเปลี่ยนไป
- เลือดออกเล็กน้อยทางช่องคลอด
คุณแม่จะได้รับการตรวจปากมดลูกสั้นหรือไม่ ?
ในบางโรงพยาบาลจะทำการตรวจคัดกรองในคุณแม่ทุกราย แต่การตรวจภาวะปากมดลูกสั้นไม่ได้อยู่ในการตรวจครรภ์ตามปกติทั่วไปในบางโรงพยาบาล ดังนั้นแพทย์อาจไม่ได้ตรวจความยาวของปากมดลูกของคุณแม่ นอกเสียจากว่ามีเหตุบ่งชี้ให้ตรวจดังนี้
- สัญญาณของการเจ็บท้องคลอดก่อน 37 สัปดาห์
- ความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด เช่น เคยคลอดก่อนกำหนดมาก่อน หรือมีประวัติครอบครัวเคยคลอดก่อนกำหนด
- ตั้งครรภ์ทารกมากกว่า 1 คน เช่น ลูกแฝดสอง หรือแฝดสาม
- ประวัติการแท้งบุตรในไตรมาสที่ 2 หลายครั้ง
- เคยทำการผ่าตัดบริเวณปากมดลูก
- มีการบาดเจ็บที่มดลูกจากการคลอดครั้งก่อนหน้า
หากแพทย์คาดว่าคุณแม่อาจมีปากมดลูกสั้น อาจตรวจอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดเพื่อตรวจว่าคุณแม่จะมีภาวะปากมดลูกเปิดโดยไม่ได้มีการเจ็บครรภ์เมื่อไร การอัลตราซาวนด์ประเภทนี้ถือเป็นมาตรฐานหลักในการวัดปากมดลูก และมักทำก่อนเข้าสู่ไตรมาสที่สองตอนอายุครรภ์ประมาณ 16 สัปดาห์ และอาจเร็วกว่านั้นหากคุณแม่เคยมีประวัติแท้งบุตรหรือคลอดก่อนกำหนดมาก่อน และปากมดลูกมีความยาวน้อยกว่า 25 มม. แพทย์อาจวินิจฉัยว่าคุณแม่มีภาวะปากมดลูกสั้น
การรักษา
ผู้ให้บริการอาจแนะนำให้คุณแม่ทำการเย็บผูกปากมดลูก ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่แพทย์จะใช้เส้นไหมที่แข็งแรงมาเย็บบริเวณปกมดลูกไว้ให้ปิดสนิท ขั้นตอนนี้อาจเริ่มทำได้ตั้งแต่ 13 – 14 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ โดยแพทย์จะเอาไหมออกประมาณสัปดาห์ที่ 37 เมื่ออายุครรภ์ครบตามกำหนดแล้ว หรืออาจใช้ห่วงพยุงปากมดลูกในบางกรณีเพื่อลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด นอกจากนี้ในรายที่ปากมดลูกสั้นไม่มากอาจมีการพิจารณามให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเสริมภายใต้การดูแลของสูติแพทย์
ปัจจัยที่ทำให้มีความเสี่ยง
ปัจจัยบางประการที่อาจส่งผลต่อความยาวของปากมดลูก และทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดมีดังนี้:
- ภาวะที่มีมาแต่กำเนิด: ความผิดปกติของมดลูกตั้งแต่กำเนิดอาจส่งผลต่อขนาดของปากมดลูก และทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
- การผ่าตัดที่ปากมดลูก: การผ่าตัดที่ใช้เพื่อแก้ไขความผิดปกติของปากมดลูกซึ่งมาจากผลตรวจเพพสเมียร์ผิดปกติอาจทำให้ขนาดของปากมดลูกเปลี่ยนแปลงไปได้ และทำให้เกิดภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้การผ่าตัดอื่น ๆ เช่นการขูดมดลูกก็อาจทำให้ปากมดลูกเปิดก่อนกำหนดได้
- การบาดเจ็บที่ปากมดลูก: ถึงแม้ว่าจะพบได้ยาก แต่การฉีกขาดของปากมดลูกจากการคลอดครั้งก่อนหน้าอาจทำให้ปากมดลูกไม่แข็งแรงได้
- ปัจจัยอื่น ๆ : การติดเชื้อ หรืออาการบวมอาจทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
วิธีป้องกัน
ไม่มีวิธีใดที่ป้องกันภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ แต่ก็มีวิธีบางอย่างที่คุณแม่สามารถทำได้เพื่อระวังไว้ก่อน และเพื่อช่วยให้การตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นไปอย่างราบรื่นและสุขภาพดีตลอดอายุครรภ์ถึงจะเป็นคนที่มีความเสี่ยง คุณแม่สามารถปฏิบัติตัวดังนี้
- ไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ: เพื่อให้แพทย์ได้ติดตามสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย
- ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: ระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะต้องการกรดโฟลิก, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม และสารอาหารอื่น ๆ มากกว่าปกติ ดังนั้นหากทานวิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์ทุกวันก็จะช่วยลดการขาดสารอาหารบางชนิดได้
- หลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยง: หลีกเลี่ยงบุหรี่, แอลกอฮอลล์ หรือยาที่ผิดกฏหมาย และปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาหรือทานอาหารเสริม ถึงแม้จะเป็นยาที่หาซื้อได้ทั่วไปก็ตาม
รับรองโดย:
พญ.วรรวดี ทรัพย์มี ปัญญากาศ (สูตินรีแพทย์) (1 มิถุนายน 2022)