ทำความรู้จักกับภาวะสมองพิการ
สาระจาก THAI StemLife
ภาวะสมองพิการเป็นภาวะผิดปกติตลอดชีวิตและเป็นที่รู้กันว่าไม่มีทางรักษาได้ ภาวะนี้เกิดกับ 1 ใน 500 ของทารกแรกเกิดทั้งหมด ปัจจุบันเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ที่ล้ำสมัยทำให้มีความหวังในการรักษาและสามารถช่วยให้อาการดีขึ้นอย่างถาวรได้
ภาวะสมองพิการคืออะไร
ภาวะสมองพิการ (Cerebral palsy – CP) เป็นภาวะที่ส่งผลต่อเด็กเล็กและทำให้พิการตลอดชีวิต โดยจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและท่าทางของร่างกาย ทำให้ต้องจำกัดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภาวะนี้เกิดกับ 1 ใน 500 ของทารกแรกเกิดทั้งหมดและมักเกิดจากความเสียหายต่อสมองในขณะกำลังพัฒนา ส่วนใหญ่มักเกิดก่อนการคลอด
สัญญาณและอาการของภาวะสมองพิการ
อาการของภาวะสมองพิการมักแสดงให้เห็นในช่วงที่เป็นทารก หรือช่วงก่อนวัยเรียน ภาวะนี้ทำให้เกิดความผิดปกติในการเคลื่อนไหวเช่นภาวะตอบสนองที่รุนแรงกว่าปกติ แขนขาหรือลำตัวไม่มีแรง ท่าทางผิดปกติ เคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่สามารถควบคุมได้ เดินไม่มั่นคง หรืออาการหลายอย่างรวมกัน บุคคลที่มีภาวะสมองพิการอาจมีอาการของโรคลมชัก ตาบอดหรือหูหนวกร่วมด้วย
สัญญาณในช่วงแรก
สัญญาณหลัก ๆ ที่บ่งบอกว่าเด็กมีภาวะสมองพิการคือพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวทางร่างกายช้ากว่าขั้นพัฒนาการที่ควรเป็น สัญญาณอื่น ๆ ที่อาจบอกถึงภาวะสมองพิการมีดังนี้
ในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน
- ศีรษะตกเมื่ออุ้มขึ้นในท่าหงาย
- ลำตัวของทารกรู้สึกแข็งหรือไม่มีแรง
- เมื่อวางศีรษะในอ้อมแขนของพ่อแม่ ทารกแสดงอาการเหมือนผลักออก
- เมื่ออุ้มขึ้นแล้วขาแข็งเกร็งและไขว้กัน
ในทารกอายุมากกว่า 6 เดือน
- ทารกไม่คว่ำหรือหงายเอง
- ทารกไม่สามารถนำมือมาประจบกันได้
- ทารกไม่สามารถนำมือเข้าปากหรือทำได้ยาก
- ทารกยื่นมือออกข้างเดียวในขณะที่อีกข้างหนึ่งกำมือไว้
ในทารกอายุต่ำกว่า 10 เดือน
- ทารกคลานตัวเอียง
- ทารกนั่งไถลตัวโดยใช้ก้นไถล หรือเดินด้วยเข่าแต่ไม่คลานสี่ขา
โปรดทราบว่าเด็กที่ไม่มีภาวะสมองพิการก็อาจแสดงสัญญาณเหล่านี้บางอย่างได้
การรักษาภาวะสมองพิการ
จนถึงปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาภาวะสมองพิการให้หายขาดได้ การรักษาปัจจุบันจึงเน้นไปที่การช่วยเคลื่อนไหว ลดภาวะข้อต่อยึดเกร็ง เพิ่มการบริโภคสารอาหารที่ดี รวมถึงการดูแลและสนับสนุน พร้อมกับการให้คำปรึกษาแก่ครอบครัว
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์เพื่อช่วยในการรักษา และในปี 2011 THAI StemLife ได้มีผลการรักษาที่แสดงให้เห็นถึงความหวัง โดยใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือทารกเพื่อรักษาภาวะสมองพิการ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรักษาสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวร่างกาย และส่งสัญญาณไปยังเซลล์สมองรอบข้างได้ เด็กที่ได้รับสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือของตนเองในจำนวนมากที่สุด แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของการเชื่อมต่อเซลล์สมองในปริมาณมากที่สุด และมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวมากที่สุด
ในช่วงเวลา 12 ปีหลังจากงานวิจัยของ THAI StemLife ก็ได้มีงานวิจัยอีกหลายงานที่ทำการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และหลักฐานแสดงให้เห็นว่าการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ที่เก็บจากเลือดสายสะดือทารกนั้นสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การใช้สเต็มเซลล์เพื่อรักษาภาวะสมองพิการ
ปัจจุบันการใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือของพี่น้องสำหรับเด็ก ๆ ที่มีภาวะสมองพิการกำลังถูกประเมินความเสี่ยง และมีผลที่ค่อนข้างปลอดภัย นี่หมายความว่าภาวะที่ไม่สามารถรักษาได้ก่อนหน้านี้อาจกลายเป็นภาวะที่บรรเทาได้ ด้วยการเก็บเลือดจากสายสะดือทารกและเก็บเนื้อเยื่อในระหว่างการคลอดกับ THAI StemLife ธนาคารสเต็มเซลล์เอกชนแห่งนี้เป็นผู้นำในด้านการวิจัยเรื่องเลือดจากสายสะดือของตัวทารกเอง และเป็นผู้ให้บริการรายแรกในโลกที่ใช้เลือดจากสายสะดือและ G-CSF ในการรักษาภาวะสมองพิการ
กรณีศึกษาจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย
คุณแม่ท่านหนึ่งในกรุงเทพฯ สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกชายว่ามีพัฒนาการทางการเคลื่อนไหวล่าช้า จึงขอความช่วยเหลือจากแพทย์ แพทย์ใช้เวลากว่า 8 เดือนในการวินิจฉัยว่าสาเหตุเกิดจากภาวะสมองพิการเนื่องจากอาการมีความแตกต่างกันมากในแต่ละกรณี
หลังจากได้รับการวินิฉัย พ่อแม่คู่นี้ได้พยายามเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะสมองพิการและ ได้พบกับกรณีของเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มีภาวะคล้ายกัน เด็กชายคนนั้นได้รับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์และมีอาการดีขึ้น โชคดีที่พ่อแม่ของเด็กชายที่เป็นโรคได้เก็บเลือดจากสายสะดือของเขาเอาไว้กับ THAI StemLife เมื่อแรกเกิด
การเตรียมการรักษาใช้เวลาทั้งหมด 10 วันแต่การรักษาจริงใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น เลือดสายสะดือปริมาณ 30 มล. ถูกส่งผ่านเข้าไปยังเส้นเลือดของเด็กผ่านสายน้ำเกลือ หลังจาก 1 สัปดาห์พ่อแม่ก็ประทับใจกับผลที่ได้ เด็กน้อยมีอาการตื่นตัวและดูสนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น เขาสามารถพูดได้ชัดเจนและไม่ต้องใช้รองเท้าแบบพิเศษในการช่วยเดินอีกต่อไป
ภาวะที่อาจเป็นไปตลอดชีวิตสำหรับเด็กนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กได้เลือกทำหลักประกันเพื่อสุขภาพเอาไว้ให้ลูก นั่นคือการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ
อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่
พาร์ทเนอร์ที่มะลิไว้ใจ
THAI StemLife เป็นบริษัทสเต็มเซลล์แห่งแรก และบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นบริษัทเดียวที่มีประสบการณ์ในการนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในการช่วยชีวิตในสถานการณ์จริง และยังเป็นบริษัทเดียวที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับการรักษาภาวะบาดเจ็บทางสมองในเหตุฉุกเฉิน