การคลอดบุตร
อัปเดต
ขั้นตอนของการคลอดธรรมชาติ
คำอธิบายเกี่ยวกับการคลอดในแต่ละขั้นตอน โดยคุณหมอ วรชัย ชื่นชมพูนุท จากโรงพยาบาล BNH
การคลอดธรรมชาติแบ่งได้เป็น 3 ขั้น
- เมื่อปากมดลูกเริ่มเปิด
- คลอดลูก
- คลอดรก
ขั้นตอนที่ 1: เป็นขั้นตอนเริ่มแรก ปากมดลูกจะเปิดไปจาก 1 เซนติเมตร ไปถึง 10 เซนติเมตร ถ้าคุณแม่ยังไม่เคยคลอดลูกมาก่อน ขั้นตอนนี้อาจจะกินเวลาค่อนข้างนาน ไปถึงวัน หรือถึงวันครึ่ง สัญญาณชัดเจนตัวหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าเราใกล้คลอดแล้ว ก็คือการที่มีมูกเลือดออกช่องคลอด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
ในการเจ็บท้องคลอดช่วงแรก ๆ อาการเจ็บจะค่อนข้างคงที่ จะมีระยะเจ็บและระยะห่างสม่ำเสมอ เมื่อผ่านช่วงหนึ่งไปซึ่งคนไข้บางคนใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ของคุณแม่บางคนอาจใช้เวลาเป็นวันก็ได้ อาการเจ็บเตือนนี้จะเจ็บถี่ขึ้น เรื่อย ๆ ไปทุก 30 นาที ทุก 10 นาที และกลายเป็น 5 นาทีในที่สุด
ในช่วงแรกของการเจ็บครรภ์คลอด คุณแม่สามารถจะรออยู่บ้านได้ เพราะว่าจะใช้เวลานาน ถ้ารู้สึกเจ็บอาจจะเปิดหนัง นอนพักเดิน เล่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการเจ็บปวด แต่เมื่อเจ็บมากขึ้นอีกหน่อยก็อาจจะอาบน้ำอุ่น แช่น้ำร้อน ช่วยบรรเทา อาการปวดได้
คุณแม่จะต้องออกมาโรงพยาบาลเมื่อมีการเจ็บที่รุนแรงขึ้น ความถี่ทุก ๆ 5 นาที หรือถ้ามีอาการน้ําเดิน คือน้ำที่ไหลออกมาจากช่องคลอด ควรจะไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาการน้ำเดินนี้ คือสัญญาหนึ่งที่บอกว่าน้ำในถุงน้ำคร่ำได้ขับตัวออกมาแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการคลอด ที่โรงพยาบาลจะมีการตรวจเช็คอาการโดยรวมของคุณแม่ และตรวจปากมดลูกดูว่ามีการเปิดมากพอที่จะย้ายไปห้องคลอดแล้วหรือยัง
เมื่อปากมดลูกเปิด ถึง 3-4 เซนติเมตรแล้ว เรียกว่าเข้าระยะ Active phrase การเจ็บครรภ์คลอดก็จะเริ่มขึ้น ระยะนี้บางคนก็กินเวลา 4-6 ชั่วโมง มดลูกของคุณแม่จะเปิดจาก 3-4 เซนติเมตร เป็นถึง 10 เซนติเมตร ซึ่งหมายความว่าจะต้องเปิด 1-2 เซ็น ต่อชั่วโมง และการเจ็บครรภ์ในตอนนี้ ก็จะเข้มข้นมากชึ้น นานขึ้นและถี่ขึ้น โดยจะมีระยะเวลาประมาณ 60 วินาที ห่างกัน 2-5 นาที ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณแม่ส่วนใหญ่จะมีความเจ็บปวดพอสมควร ซึ่งเป็นช่วงเวลาเหมาะที่จะขอใช้ยาบล็อกหลัง หรือ Epidural block เมื่อปากมดลูกเปิดถึง 10 เซนติเมตรแล้ว คุณแม่ก็พร้อมจะแบ่งแล้ว
ขั้นตอนที่ 2 การเบ่งคลอด: ปากมดลูกของคุณแม่เปิดเพิ่มมากขึ้น คุณแม่จะมีสัญชาตญาณที่จะเบ่งออกมาโดยธรรมชาติ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 20 ถึง 60 นาที ศีรษะของลูกก็จะเริ่มออกมาให้คุณหมอเห็นและอีกเพียงไม่ นาน ลูกก็จะเกิดออกมา
ขั้นตอนที่ 3 การคลอดรก: การคลอดรกออกมา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 30 นาที
หลังคลอด
เมื่อขั้นตอนการคลอดเสร็จสมบูรณ์ คุณหมอจะทำการตัดสายสะดือ และลูกจะเริ่มหายใจ หลังจากนั้นคุณหมอจะตรวจสภาพเบื้องต้นของทารกภายในห้องคลอด ก่อนจะส่งลูกไปให้คุณแม่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ในบางโรงพยาบาลจะอนุญาติให้คุณแม่ได้ใช้เวลาสักพักหนึ่งกับลูก เพื่อให้เขาได้ดื่มน้ำนมคุณแม่ ผ่อนคลายความกังวล ความวุ่นวายในการคลอดที่เพิ่งเกิดขึ้น การผ่อนคลายด้วยกันในทันทีจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่กับลูก และทดลองการดื่มนมครั้งแรก หลังจากนั้นทารกจะถูกนำตัวไปทำความสะอาด ควบคุมอุณหภูมิและตรวจอย่างถี่ถ้วน
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้แล้ว คุณหมอจะทำการเย็บซ่อมบริเวณช่องทางคลอดของคุณแม่ในกรณีที่มีบาดแผลฉีดขาด และดูแลคุณแม่เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยดีแล้ว
คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด
ถ้าแพทย์ไม่เห็นว่าการการตั้งครรภ์ หรือการคลอดคุณแม่มีความซับซ้อนอะไร จนมีความจำเป็นต้องผ่าคลอด คุณแม่สามารถเลือกได้ว่าอยากทำคลอดวิธีไหน ในมุมมองด้านสุขภาพของทั้งตัวคุณแม่เองและลูก การคลอดธรรมชาติเป็นวิธีการที่สมเหตุสมผล ด้วยเหตุผลสองประการคือ:
- แบคทีเรียบางชนิดที่ทารกจะได้รับขณะที่คลอดธรรมชาติ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเขา ทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ น้อยลง และมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ลดลงในอนาคต
- ในการคลอดธรรมชาติ คุณแม่จะใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวที่เร็วกว่า และกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์กว่า
ตัวช่วยเพื่อลดความเจ็บปวด
ในสมัยนี้เรามีวิวัฒนาการหลาย ๆ อย่างที่ช่วยลดบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ ที่ใช้บ่อย ๆ จะมี 3 อย่างคือ การใช้แก๊สแบบดม การฉีดยาแก้ปวด และการบล็อกหลัง หรือ Epidural
Nitrous oxide: Nitrous oxide หรือว่าแก๊สหัวเราะ เป็นแก๊สที่มาผสมกับออกซิเจน และส่งผ่านหน้ากากให้คุณแม่ดมเข้าไป เมื่อสูดเข้าไปแล้ว ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีจะเริ่มเห็นผล แต่ในบางคนอาจจะไม่รู้สึกว่าลดความเจ็บปวดได้เลย ในระยะท้าย ๆ ของการเจ็บท้องคลอด
Ephedrine: Ephedrine หรือว่ามอร์ฟีน เป็ยยากลุ่มฉีดเข้าเส้นหรือเข้ากล้ามเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ใช้เวลาออกฤทธิ์ประมาณ 20 นาที อยู่ได้ 2-4 ชั่วโมง ซึ่งคุณหมอจะไม่แนะนำในช่วงระยะที่ 2 เนื่องจากว่าอาจจะกดการหายใจของลูกได้
การบล็อกหลังหรือ Epidural: ถือเป็นยาชาชนิดหนึ่งออก ฤทธิ์ชาเส้นประสาทที่นำความรู้สึกเจ็บจากช่องคลอดไปถึงสมอง สำหรับคุณแม่ส่วนใหญ่ Epidural จะทำให้ไม่มีความรู้สึกเจ็บเหลืออยู่เลย ซึ่งข้อเสียก็คือทำให้คุณแม่ไม่สามารถที่จะรู้สึกถึงการเจ็บในการแบ่งคลอดได้ และจะต้องมีโอกาสในการใช้เครื่องมือในการช่วยคลอดสูงขึ้น
ดังนั้นคุณแม่ควรจะปรึกษาคุณหมอให้ถี่ถ้วนก่อนจะเลือกวิธีดังกล่าว เพราะทุก ๆ วิธีมีข้อดีข้อเสีย
การตั้งครรภ์ของคุณผู้หญิงทุกคนต่างกันออกไป ทารกทุกคนก็ไม่เหมือนกัน ขอให้คุณแม่ทุกท่านโชคดีกับการคลอด และยินดีด้วยกับคุณแม่ที่จะเจอเจ้าตัวน้อยในเร็ววัน