ทำให้ดูหรือบอกให้รู้ สองวิธีในการสอนลูก
เด็กทุกคนเรียนรู้โดยทางตรงและทางอ้อม การสอนลูก อย่างรอบคอบนั้นคือทางเดียวที่จะเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดีให้แก่เขาได้
คุณสามารถใช้กลยุทธ์ในการสอนลูกได้สองวิธีคือการทำให้ดู และการบอกให้รู้
การทำให้ดูอย่างจงใจ
เมื่อลูกมองดูคุณพ่อคุณแม่ เขาจะค่อย ๆ ซึมซับข้อมูลทีละเล็กละน้อยว่าเขาควรทำอะไร และทำอย่างไร การทำให้ดูนั้นมีประสิทธิภาพมากเพราะโดยธรรมชาติแล้วเด็ก ๆ มักจะสังเกตพ่อแม่เพื่อจะทำตามอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นการทำให้ลูกเห็นก็ง่ายกว่าการอธิบายออกมาเสียอีก เช่น คุณอาจอธิบายวิธีเตะลูกบอลให้ลูกฟัง แต่การทำให้ดูเลยก็ง่ายกว่ามาก
การทำให้ดูนั้นคือวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่มีอิทธิพลต่อเด็ก คุณอาจจงใจทำให้ลูกเห็นในเรื่องที่อยากให้เขาเรียนรู้ หรือพฤติกรรมที่อยากให้เขาทำ ด้านล่างนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้:
- ชวนลูกดูคุณทำงานบ้านที่ทำเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอาหารเช้า หรือเก็บของ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจงพยายามชวนลูกมาเป็นผู้ช่วยและมีส่วนร่วมเสมอ
- เมื่องานเริ่มซับซ้อนขึ้น พยายามทำให้ช้าลงเพื่อแสดงให้ลูกเห็นทักษะที่ต้องการทีละขั้นตอน
- ดูให้แน่ใจว่าคุณสามารถดึงความสนใจของลูกน้อย ให้เขาสนใจในรายละเอียดของสิ่งที่ทำ คุณอาจช่วยโดยการอธิบายแต่ละขั้นตอนให้เขาฟัง “ตอนนี้คุณพ่อกำลังหมุนหลอดไฟไปทางขวา จะได้ซ่อมหลอดไฟจ้ะ” (สังเกตว่าการอธิบายแบบนี้ยังช่วยเพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูกด้วย)
- อนุญาตให้ลูกได้ร่วมทำกิจกรรมนั้น ๆ ภายใต้การดูแลของคุณ และทำโดยไม่ต้องดูแลเมื่อเขาทำเป็นแล้ว
การบอกให้รู้
การสอนโดยการบอกถือเป็นวิธีการสอนที่ปฏิบัติกันทั่วไป แต่หลายครั้งก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ และยังสามารถทำได้ในบางสถานการณ์เท่านั้น เช่น การเตือนลูกน้อยไม่ให้ลืมสิ่งที่เขาเรียนรู้มาตอนลงมือทำ สำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กนั้นการทำให้ดูย่อมดีกว่าการบอกให้รู้เสมอ เหตุผลที่การทำให้ดูนั้นทรงพลังมากก็เพราะนอกจากลูกจะได้เรียนรู้ว่าเขาต้องทำอย่างไรแล้ว เขาจะได้เชื่อมั่นในตัวคนที่ทำด้วย เมื่อลูกได้เห็นคุณพ่อกระทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่เขาเคยบอกไว้ แทนที่จะเอาแต่พูดอย่างเดียว เขาก็จะมีความประทับใจไม่รู้ลืม
อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราก็ไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ให้ลูกดูได้ทุกเรื่อง คุณจึงต้องพึ่งการบอกให้เขารู้บ้าง นี่คือตัวอย่างวิธีการที่สามารถทำได้:
- การบอกให้รู้เป็นประโยชน์เมื่อคุณอยากสอนลูกในเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะหากคุณแสดงให้ดูในเรื่องที่ไม่ดี เช่น การขว้างปาข้าวของ ลูกก็คงไม่ฟังในสิ่งที่คุณบอก แต่กลับอยากทำเลียนแบบแทน
- ใช้การบอกให้รู้เพื่อดึงความสนใจของลูก ก่อนทำให้เขาดู คุณอาจบอกว่า “เดี๋ยวคอยดูที่แม่ทำนะ!”
- ระหว่างที่สอนลูก พยายามมองตาเขาและอธิบายประเด็นต่าง ๆ โดยการใช้ท่าทางและภาษามือประกอบ
- คุณอาจย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับลูก เพื่อให้เขาสนใจอย่างเต็มที่ และให้ลูกโต้ตอบได้ง่ายขึ้นในระดับสายตาของเขา
- หากคุณใช้วิธีบอกให้รู้เพื่อพยายามปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูก พยายามใช้วิธีแบบเดิมทุกครั้ง เช่น เริ่มด้วยการย่อตัวลงในระดับเดียวกับลูกและบอกเขาให้มองตาคุณ ทำแบบนี้ทุกครั้งแล้วจึงบอกเขาว่าคุณไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ
หากขั้นตอนมีความซับซ้อน เช่น การใส่เสื้อผ้าให้ถูก คุณอาจทำโปสเตอร์เพื่อบอกวิธีการ ด้วยวิธีนี้ลูกจะได้ตรวจสอบไปด้วยระหว่างทำในขณะที่เขาทำสิ่งนั้น
วิธีสอนลูกให้ได้ผล
ไม่ว่าจะสอนแบบทำให้ดูหรือบอกให้รู้ วิธีการเหล่านี้จะสามารถช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
- ก่อนจะสอนอะไรใหม่ ๆ ให้ลูก ควรดูให้แน่ใจว่าเขามีความพร้อมทางจิตใจที่จะสามารถเข้าใจกระบวนการนั้น ๆ ได้ และมีทักษะทางร่างกายที่พร้อม
- สอนลูกในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และเมื่อเขาอยู่ในอารมณ์ที่อยากเรียนรู้ การบังคับเด็กให้เรียนไม่ได้ผลแน่นอน
- ปล่อยให้เขาได้ฝึกฝนทักษะในจังหวะของเขาเอง ไม่มีทางลัดสำหรับการเรียนรู้ และเด็กแต่ละคนต้องหาจังหวะของเขาเอง
- ชมลูกในความพยายามของเขา ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
- บอกลูกถึงรายละเอียดที่เขาทำได้ถูกต้อง และบอกเขาว่าครั้งหน้าจะพัฒนาได้อย่างไร
- อย่าวิจารณ์ลูก หรือเด็กคนอื่น ๆ เมื่อเขาทำผิด ให้ใช้วิธีให้กำลังใจให้เขาพยายามเพิ่มขึ้น ยิ้มและอธิบายว่าเขาทำผิดอย่างไร และบอกว่าเขาควรทำอย่างไร
ไม่ว่าคุณเลือกใช้วิธีไหนในการสอนลูก อย่ารีบร้อนให้เขาทำตามความต้องการ อย่ากดดัน และอย่าคาดหวังในตัวลูก ทักษะบางอย่างก็ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะทำได้ดี การฝึกเดินใช้เวลาถึงหนึ่งปี และการวิ่งต้องใช้เวลาถึงสองปี และการฝึกใช้ทักษะทางตัวเลขกับชีวิตจริง(เช่น การแบ่งครึ่งสูตรอาหาร) นั้นใช้เวลาถึงสิบปีทีเดียว
รับรองโดย:
เกศสุภา จิระการณ์ (นักสุขภาพจิต) (31 มีนาคม 2021)