อาการคนท้องสัปดาห์ที่ 13

ในสัปดาห์นี้ กระดูกของลูกเริ่มจะแข็งแรงขึ้นแล้ว ส่วนคุณแม่จะเริ่มมีอาการที่พบได้ในไตรมาสที่สองมากขึ้น อย่างอาการท้องผูก ความอยากทานอาหารแปลก ๆ  ความรู้สึกตึงบริเวณหน้าอก หรืออารมณ์ทางเพศสูงขึ้น

ลูกเป็นอย่างไรบ้าง
ในสัปดาห์นี้ ลูกมีน้ำหนักประมาณ 25 กรัม ความยาวประมาณ 7.5 ซม. หรือประมาณเท่าถั่วลันเตา ร่างกายช่วงล่างพัฒนาจนมีขนาดสมส่วนกับร่างกายช่วงบน ทำให้เขาเริ่มดูเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น

เสียง: เส้นเสียงเป็นเนื้อเยื่อที่พับตัวอยู่ในลำคอและมีหน้าที่สร้างเสียงขึ้นมา ในสัปดาห์นี้ เส้นเสียงนี้จะเริ่มพัฒนาแล้ว

กระดูก: ในสัปดาห์นี้ กระดูกจะพัฒนาจนมีความแข็งแรงมากขึ้นโดยเฉพาะกระดูกศีรษะ และกระดูกยาว(Long bone) กล้ามเนื้อบริเวณช่วงอกเองก็กำลังพัฒนาเช่นกัน

การสร้างปัสสาวะ: ในช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์นี้ ไตของลูกเริ่มที่จะทำงานแล้ว เมื่อเขาเริ่มที่จะกลืนน้ำครำ่เข้าไป ร่างกายของเขาจะขับออกมาในรูปแบบปัสสาวะอยู่ในถุงน้ำคร่ำ 

และปริมาณน้ำที่มากเกินไปในเลือดของลูกจะถูกกรองผ่านไตและขับออกมาในรูปของปัสสาวะ เช่นกัน

ซึ่งปริมาณปัสสาวะนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  จนถึงสัปดาห์ท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ โดยรวมมีของเหลวปริมาณกว่าครึ่งลิตรถูกเพิ่มเข้าไปในถุงน้ำคร่ำของคุณแม่ทุก ๆ วัน

ลำไส้: ตอนนี้ลำไส้ได้เคลื่อนจากบริเวณสายสะดือกลับมาอยู่ในท้องของลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฮอร์โมน: ในตอนนี้ร่างกายของลูกสามารถตรวจความเข้มข้นของไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ นั่นหมายความว่าตอนนี้ต่อมไทรอยด์ของเขาได้เริ่มผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ขึ้นมาแล้ว ซึ่งฮอร์โมนนี้เป็นฮอร์โมนที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาสมองของเขา

คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง
หนึ่งในอาการที่พบได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 13 ของการตั้งครรภ์คือ อารมณ์ทางเพศที่สูงขึ้น ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงการตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติและปลอดภัย นอกเสียจากว่าคุณหมอจะแนะนำให้หลีกเลี่ยง หรือคุณหมอแนะนำให้คุณแม่พักอุ้งเชิงกรานซึ่งมักพบในกรณีที่รกมีโอกาสเกาะต่ำ

เส้น Linea nigra: คุณแม่อาจสังเกตเห็นเส้นสีน้ำตาลหรือสีดำขึ้นบริเวณกลางท้องของคุณแม่หรือที่เรียกว่าเส้น Linea nigra เส้นนี้จะปรากฏขึ้นเป็นปกติในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และจะค่อย ๆ จางลงไปเองหลังคลอด

ตกขาว: ตกขาวคือของเหลวที่ถูกหลั่งออกมาจากช่องคลอดและยังมีหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดอีกด้วย การมีตกขาวถือเป็นอาการปกติที่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องกังวล นอกเสียจากว่ามันทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวหรือมีกลิ่นที่ผิดปกติ คุณแม่สามารถใช้แผ่นอนามัยได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

ทำอะไรได้บ้างในช่วงนี้
พยายามทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือในกรณีที่คุณแม่ไม่แน่ใจว่าทานวิตามินได้ครบถ้วนทุกชนิด คุณแม่เสริมด้วยวิตามินสำหรับคนท้องด้วยได้ 

ถ้าร่างกายของคุณแม่ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ หรือร่างกายของคุณแม่ขาดสารอาหารที่จำเป็น  อาจส่งผลให้ลูกต้องปรับตัวเข้ากับสภาวะขาดแคลนสารอาหารตามคุณแม่ มีผลการวิจัยออกมาว่าในเด็กที่ประสบปัญหาขาดสารอาหารขณะอยู่ในท้องแม่ จะทำให้มีความเสี่ยงในการมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มขึ้น เช่นเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือโรคหัวใจได้ในอนาคต

โปรดทราบ
ทางทีมงานMali ได้พยายามรวบรวมข้อมูลที่อัปเดทล่าสุดมาให้กับคุณแม่หรือผู้อ่านแล้ว แต่ทั้งนี้ยังคงมีข้อสงสัยหลายอย่างที่ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ยังคงต้องหาคำตอบต่อไปเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และพัฒนาการของทารกในครรภ์ ทางทีมเราจึงต้องการแจ้งให้ทราบว่าข้อมูลที่นำเสนออาจไม่ครอบคลุมเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการตั้งครรภ์ของแต่ละบุคคลหรือเด็กแต่ละคน