เก็บสเต็มเซลล์ที่ไหนดี?
สาระจาก THAI StemLife
มะลิเลือก THAI StemLife ให้เป็นธนาคารสเต็มเซลล์ที่เราไว้วางใจ เนื่องจากเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกและเป็นธนาคารสเต็มเซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ในการเก็บสเต็มเซลล์ของลูกไว้ในธนาคารเอกชน สิ่งสำคัญคือควรเลือกธนาคารที่ไว้ใจได้และมีทุนสำรองที่มั่นคง เพื่อที่จะได้แน่ใจว่ากิจการจะยังดำเนินอยู่เมื่อคุณต้องการใช้สเต็มเซลล์สำหรับลูกน้อยในอนาคต
ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้มะลิเลือก THAI StemLife เป็นพาร์ทเนอร์ในปี 2023 นี้
THAI StemLife คือใคร?
THAI StemLife คือธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันได้เก็บสเต็มเซลล์สำหรับครอบครัวกว่า 20,000 ครอบครัว และเครือข่ายบริษัทแม่ในชื่อ Cordlife ได้เก็บสเต็มเซลล์ของ 400,000 ครอบครัวทั่วโลก THAI StemLife ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดยกลุ่มของสูตินรีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงเวลา 17 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นผู้นำด้านการเก็บสเต็มเซลล์ การเก็บรักษาสเต็มเซลล์ และการนำมาใช้ทั้งในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท THAI StemLife เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทนานาชาติชื่อ Cordlife และเป็นธนาคารสเต็มเซลล์ของเอกชนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
THAI StemLife ทำอะไรบ้าง?
THAI StemLife เชี่ยวชาญด้านการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ การเก็บรักษา การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ และปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับพันธุกรรม ซึ่งเป็นบริการที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกน้อยหรืออาจมีโอกาสช่วยชีวิตลูกได้ในอนาคต
THAI StemLife ยังได้ทำการวิจัยของตนเองเพื่อตีพิมพ์ในนิตยสารวิทยาศาสตร์ที่มีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบอีกด้วย
งานวิจัยของ THAI StemLife
THAI StemLife และทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิจัยมาแล้วกว่า 30 ชิ้น โดยได้ตีพิมพ์ในนิตยสารทางการแพทย์ที่มีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบ และยังได้ถูกนำเสนอในงานวิชาการ รวมไปถึงถูกอ้างอิงถึงในงานวิจัยอื่นแล้วกว่า 700 ครั้ง งานวิจัยที่โดดเด่นที่สุดมีดังนี้
- การใช้เลือดจากสายสะดือและกระบวนการ G-CSF เพื่อรักษาภาวะสมองพิการ: เป็นงานวิจัยที่ยังได้รับการอ้างอิงถึงอยู่เสมอเมื่อมีการวิจัยใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกัน
- งานวิจัยที่โรงพยาบาลตำรวจเรื่องการใช้สเต็มเซลล์ของผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อกระดูกอ่อนเสื่อมเพื่อป้องกันการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม: การทดลองทั้งสามครั้งยังถูกอ้างอิงถึงอยู่เสมอเนื่องจากมีกลุ่มทดลองขนาดใหญ่และมีมาตรฐานในการวิจัยสูง
- งานวิจัยเรื่องการรักษาฟื้นฟูแผลจากเบาหวานและป้องกันการตัดอวัยวะ: เป็นงานที่ได้รับรางวัล NIA 2006 top innovation award
- งานวิจัยเรื่องการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษาโรคธาลัสซีเมียหลังจากใช้เทคนิคการคัดกรองพันธุกรรมตัวอ่อน: ซึ่งได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและช่วยชีวิตเด็ก ๆ แล้วกว่า 12 คน
การรับรองที่ได้รับ
THAI StemLife ได้รับการรับรองดังต่อไปนี้:
- ISO 27001: เป็นมาตรฐานโลกในด้านความปลอดภัยของการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ
- ISO 15190-15189: เป็นมาตรฐานโลกที่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนเพื่อให้แน่ใจว่าห้องแล็บทางการแพทย์มีคุณภาพได้มาตรฐาน
- ISO 9001: เป็นมาตรฐานโลกที่ควบคุมคุณภาพของระบบการบริการจัดการ
- AABB: เป็นมาตรฐานที่มอบให้กับผู้ให้บริการในสาขาที่ต้องใช้เครื่องเปลี่ยนถ่าย การบำบัดทางการแพทย์ การใช้ยา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ส่วนบริษัทแม่ของ THAI StemLife ที่ชื่อ CordLife ก็ได้การรับรองมาตรฐานนี้เรียบร้อยแล้ว
THAI StemLife ยังได้รับรางวัลมากมายจากองค์กรที่มีชื่อเสียงเช่น the National Innovation Agency กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย และอื่น ๆ อีกมากมาย
ความสำเร็จ
THAI StemLife มีประสบการณ์และมีความสำเร็จมากมายในด้านการตรวจยีนเพื่อค้นหาโรค การตรวจยีนเพื่อค้นหาโรคที่อาจถ่ายทอดไปยังบุตร การตรวจยีนเพื่อหาความเสี่ยงโรคมะเร็ง และการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ ด้านล่างนี้คือตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่น:
- เป็นผู้ที่นำเลือดจากสายสะดือมาใช้มากที่สุดในเอเชียโดยมีการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อช่วยชีวิตแล้วกว่า 105 ครั้ง
- เป็นบริษัทแรกในโลกที่ใช้เลือดจากสายสะดือและกระบวนการ G-CSF ในการรักษาภาวะพิการทางสมอง และเป็นแห่งแรกในเอเชียที่ทำการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษาผู้ป่วยธาลัสซีเมียหลังจาก PGD-HLA และยังเป็นแห่งแรกในเอเชียที่ใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือเพื่อการปลูกถ่ายไขกระดูกในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และแผลจากโรคเบาหวาน
- เป็นธนาคารเอกชนที่เก็บสเต็มเซลล์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้นำสเต็มเซลล์มาช่วยชีวิตในสถานการณ์จริง
- เป็นผู้ให้บริการแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมงเพื่อรองรับการรักษาภาวะบาดเจ็บทางสมองในเหตุฉุกเฉิน
ทำไมธนาคารสเต็มเซลล์จึงต้องเปิด 24 ชั่วโมง?
ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินและมีภาวะบาดเจ็บทางสมอง โอกาสในการรักษาจะมีเวลาจำกัด โดยเลือดจากสายสะดือจะต้องถูกนำมาใช้ภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้การรักษาประสบผลสำเร็จ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม THAI StemLife จึงต้องเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
THAI StemLife สามารถส่งสเต็มเซลล์ของลูกน้อยไปยังห้องฉุกเฉินได้ภายใน 4 ชั่วโมง และคุณยังสามารถติดต่อสายด่วนได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ +6681 340 7676
พาร์ทเนอร์ที่มะลิไว้ใจ
มะลิ และ THAI StemLife มีเป้าหมายร่วมกันคือ การนำความจริงทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนรุ่นต่อไป เราทั้งสององค์กรมีความเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเองและครอบครัว และมีชีวิตที่ดีกับคนที่รักได้ด้วยมาตรการป้องกัน และหลักประกันสุขภาพ หากนี่คือสิ่งที่คุณต้องการ คุณสามารถเลือกสิ่งดี ๆ ให้ลูกได้โดยการฝากสเต็มเซลล์ของลูกน้อยกับ THAI StemLife