น้ำหนักทารกในครรภ์แต่ละสัปดาห์ ลูกควรหนักเท่าไหร่
น้ำหนักทารกในครรภ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม จะช่วยยืนยันได้ถึงพัฒนาการที่สมบูรณ์ของทารกในครรภ์ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของคุณแม่จึงมีส่วนช่วยอย่างมากในการติดตามพัฒนาการของเขา การเพิ่มน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์อย่างเหมาะสมจึงมีความสำคัญ น้ำหนักของคุณแม่ควรเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ในแต่ละสัปดาห์ ทารกในครรภ์มีขนาดตัวเท่าไหร่ ควรหนักแค่ไหน มะลิได้รวบรวมไว้ให้คุณแม่ทั้งหมดแล้ว
น้ำหนักควรเพิ่มมากเท่าไหร่?
ส่วนใหญ่ของน้ำหนักครรภ์ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น ขนาดของเต้านมที่ใหญ่ขึ้น การสะสมของเหลว รวมทั้งน้ำหนักของลูกและรก อัตราการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวเดิมก่อนตั้งครรภ์ของคุณแม่ โดยถูกกำหนดด้วยเกณฑ์ตามดัชนีมวลกาย (BMI) ของคุณแม่เอง
โดยในการติดตามน้ำหนักทารกในครรภ์ คุณแม่สามารถใช้ ค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI เป็นตัวชี้วัดความเหมาะสมของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ คำนวณได้ดังนี้
BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง² (เมตร)
อัตราการเพิ่มของน้ำหนักที่แนะนำ
- BMI น้อยกว่า 18 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 10 – 18 กก.
- BMI 18 ถึง 25 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 8 – 16 กก.
- BMI 25 ถึง 30 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 6 – 14 กก.
- BMI มากกว่า 30 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 4 – 8 กก.
BMI : น้ำหนักที่ควรเพิ่มสำหรับการตั้งครรภ์ลูกแฝด
- BMI 18 ถึง 22 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 17 – 24 กก.
- BMI 23 ถึง 30 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 14 – 22 กก.
- BMI มากกว่า 30 ควรเพิ่มน้ำหนักประมาณ 11 – 19 กก.
วิธีการคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI) ด้วยแอปมะลิ
เมื่อคุณแม่ลงทะเบียนใช้งาน ระบบจะให้กรอกข้อมูลน้ำหนักและส่วนสูงก่อนตั้งครรภ์ของคุณแม่ ซึ่งจะถูกนำไปคำนวนค่าดัชนีมวลกาย (BMI) และเลือกแผนการเพิ่มน้ำหนักให้คุณแม่โดยอัตโนมัติ
คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแอปมะลิ
การเพิ่มของน้ำหนักครรภ์ในไตรมาสแรก
ในช่วงไตรมาสแรก น้ำหนักคุณแม่ส่วนใหญ่จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากการตั้งครรภ์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไประหว่าง 0.5-2.5 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่น้ำหนักของคุณแม่จะไม่เพิ่มขึ้น หรืออาจลดลงเล็กน้อยในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากการรับประทานอาหารได้น้อยลง หรือมีอาการแพ้ท้อง
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 1 – 4 : เป็นช่วงสัปดาห์ที่เซลล์ไข่กำลังเริ่มการปฏิสนธิและทำการฝังตัวในมดลูกของคุณแม่ อาการหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายจะยังสังเกตได้ไม่ชัดเจนนัก
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 5 : ในตอนนี้ลูกมีความยาวประมาณ 1 มม. หรือมีขนาดประมาณเมล็ดงา กำลังเริ่มสร้างหัวใจและหลอดประสาท
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 6 : ลูกมีความยาวประมาณ 5 มม. หรือขนาดประมาณเมล็ดแอปเปิ้ล หากคุณแม่ทำการอัลตราซาวด์ผ่านช่องคลอด คุณแม่อาจเห็นหัวใจดวงเล็ก ๆ ของลูกกำลังเต้นอยู่
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 7 : ตอนนี้ลูกมีความยาวประมาณ 1 ซม. หรือมีขนาดประมาณลูกบลูเบอร์รี่ ร่างกายส่วนล่างของเขากำลังเริ่มที่จะพัฒนา มือและเท้าของเขาในตอนนี้เป็นเหมือนปุ่มเล็ก ๆ ที่เพิ่งงอกออกมาจากลำตัว ในช่วงนี้ศีรษะของลูกจะเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ซึ่งมีเซลล์สมองใหม่ถูกพัฒนาถึง 100 เซลล์ต่อนาที
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 8 : ในตอนนี้ลูกจะมีขนาดประมาณ 16 มม.หรือประมาณเท่าผลมะยม ศีรษะจะมีขนาดใหญ่กว่าลำตัว และในเร็ว ๆ นี้อวัยวะภายในของเขาจะเริ่มทำงานแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 8 เป็นต้นไป ลูกจะเริ่มตอบสนองได้แล้วเมื่อถูกสัมผัส
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 9 : ในสัปดาห์นี้ กล้ามเนื้อมัดสำคัญ ๆ และอวัยวะบางส่วนของลูกกำลังเริ่มพัฒนา ในตอนนี้เขามีความยาวประมาณ 23 มม.หรือประมาณผลองุ่น
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 10 : ตอนนี้ลูกมีความยาวประมาณ 3 ซม.และมีน้ำหนักประมาณ 4 กรัม หรือประมาณผลมะกอก หัวใจของลูกจะมีอัตราการเต้นเร็วกว่าของคุณแม่ 2-3 เท่าและสามารถตรวจฟังเสียงหัวใจของเขาได้แล้ว ลูกเริ่มที่จะเคลื่อนไหวได้มากขึ้นและชัดเจนมากพอที่จะสามารถเห็นได้จากการทำอัลตร้าซาวด์แล้ว
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 11 : ลูกมีความยาวประมาณ 4 ซม. หรือใหญ่กว่าเล็กน้อย น้ำหนักประมาณ 8 กรัม ขนาดประมาณเท่าหัวกระเทียม ถึงแม้จะยังบอกไม่ได้ว่าลูกเป็นเพศไหน แต่ในกรณีที่เขาเป็นเด็กผู้หญิง รังไข่ของเขาจะเริ่มสร้างแล้ว ในการอัลตราซาวด์สามารถตรวจพบการเคลื่อนไหวของเขาได้แล้วในสัปดาห์นี้ แต่คุณแม่อาจจะยังไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเขาในท้อง
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 12 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 14 กรัม และมีความยาวประมาณ 5.5 ซม. หรือขนาดประมาณผลมะนาว ในสัปดาห์นี้ลูกเริ่มที่จะงอนิ้วและกำมือได้แล้ว และข่าวดีสำหรับคุณแม่คือ อาการปวดปัสสาวะที่เคยมีอาจน้อยลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่าน ๆ มา
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 13 : ในสัปดาห์นี้ ลูกมีน้ำหนักประมาณ 25 กรัม ความยาวประมาณ 7.5 ซม. หรือประมาณเท่าถั่วลันเตา ร่างกายช่วงล่างพัฒนาจนมีขนาดสมส่วนกับร่างกายช่วงบน ทำให้เขาเริ่มดูเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น กระดูกของลูกเริ่มจะแข็งแรงขึ้นแล้ว ส่วนคุณแม่จะเริ่มมีอาการที่พบได้ในไตรมาสที่สองมากขึ้น อย่างอาการท้องผูก ความอยากทานอาหารแปลก ๆ ความรู้สึกตึงบริเวณหน้าอก หรืออารมณ์ทางเพศสูงขึ้น
อัตราการเพิ่มของน้ำหนักในไตรมาส 2 และ 3
คุณแม่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นระหว่าง 4 – 9 กิโลกรัมเมื่อจบไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อัตราการเพิ่มของน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 3 เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ทารก เก็บสะสมไขมันทารกไว้มากมาย ดังนั้นคุณแม่ควรต้องแน่ใจว่าได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และไม่มีน้ำตาลมากเกินไป
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 14 : ลูกกำลังเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ตัวของเขาจะมีความยาวประมาณ 8 ซม. หรือประมาณผลเลมอน และมีน้ำหนักตัวประมาณ 45 กรัม อวัยวะเพศของลูกนั้นจะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์แล้วในช่วงนี้ แต่ยังยากที่เราจะตรวจทราบได้
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 15 : ในสัปดาห์นี้ ลูกมีน้ำหนักประมาณ 70 กรัม ความยาวประมาณ 10 ซม. หรือขนาดประมาณผลแอปเปิลแดง หัวใจดวงน้อยสามารถสูบฉีดเลือดได้กว่า 25 ลิตรต่อวัน และเริ่มมีเส้นผมบาง ๆ ขึ้นที่ศีรษะแล้ว
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 16 : ดวงตาของลูกเริ่มขยับได้แล้ว ตอนนี้เขาจะมีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม และความยาวประมาณ 12 ซม.หรือประมาณผลอะโวคาโด
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 17 : ตอนนี้ลูกมีขนาดตัวยาวประมาณ 13 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 140 กรัมแล้ว ขนาดพอ ๆ กับหอมหัวใหญ่ ในขณะเดียวกันหัวใจดวงเล็กกำลังเต้นอยู่ที่ประมาณ 150 ครั้งต่อนาที
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 18 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม ความยาวประมาณ 15 ซม. หรือประมาณเท่าพริกหยวก ลูกจะสามารถได้ยินเสียงของคุณแม่ได้แล้วและคุณแม่เองก็สามารถได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นผ่านหูฟังแพทย์ได้แล้วเช่นกัน
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 19 : ตอนนี้ลูกมีความยาวประมาณ 15 ซม.น้ำหนักประมาณ 240 กรัมหรือประมาณผลมะเขือเทศ
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 20 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 300 กรัม ความยาวประมาณ 25 ซม.หรือประมาณผลกล้วยลูกใหญ่ ถ้านี่เป็นท้องแรกของคุณแม่ คุณแม่อาจรู้สึกถึงการขยับตัว การเตะและต่อยของลูกได้เป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 21 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 360 กรัม ความยาวประมาณ 27 ซม. หรือประมาณหัวแครอท ในสัปดาห์ที่ผ่านมารกนั้นมีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักตัวของลูก แต่ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป น้ำหนักตัวของเขาจะมากกว่าน้ำหนักของรกแล้ว
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 22 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 430 กรัมความยาวประมาณ 28 ซม.หรือประมาณผลมะม่วงไทย ในระยะนี้ลูกจะฝึกทักษะการควบคุมร่างกายโดยการจับที่ใบหน้า ลำตัว หรือสายสะดือ
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 23 : ลูกมีน้ำหนักประมาณ 570 กรัมความยาวประมาณ 30 ซม.หรือประมาณผลแก้วมังกร ใบหน้าน่ารัก ๆ ของเขาพัฒนาได้สมบูรณ์แล้วเหลือเพียงแต่ไขมันที่ทำให้ใบหน้าของเขาอิ่มเอิบขึ้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการสร้างอยู่
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 24 : ลูก มีน้ำหนักตัวประมาณ 600 กรัมและมีขนาดตัวยาวประมาณ 33 เซนติเมตร หรือเทียบได้กับฝักข้าวโพด ในตอนนี้ผิวของเขาจะเป็นสีอมชมพูจากการที่เส้นเลือดฝอยกำลังสร้างอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง นอกจากนี้ขนคิ้ว ขนตา และเส้นผมเริ่มขึ้นมาบ้างแล้วแต่ยังคงไม่มีสี แต่อีกไม่นานเม็ดสีจะเริ่มทำงานและมาเติมเต็มเส้นผมเหล่านี้
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 25 : ในระยะนี้ผมของลูกจะหนาและมีเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงหลังจากคลอดได้ ในตอนนี้เขาจะมีน้ำหนักประมาณ 650 กรัม ความยาวประมาณ 35 ซม. หรือประมาณมันหวาน
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 26 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 750 กรัม ความยาวประมาณ 35 ซม. หรือประมาณกะหล่ำม่วง
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 27 : สมองของเขายังคงพัฒนาอย่างรวดเร็วและเตรียมควบคุมร่างกายทั้งหมดหลังคลอด ในตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 900 กรัม ความยาวประมาณ 38 ซม. หรือประมาณดอกกะหล่ำ
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 28 : ลูกจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่เขาสะสมไขมันไว้ใต้ชั้นผิวหนังมากขึ้น ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 1.15 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 37 เซนติเมตร มีขนาดประมาณลูกมะเขือม่วง
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 29 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 1.35 กก. ความยาวประมาณ 38 ซม. หรือประมาณผลฝรั่ง
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 30 : ในทุก ๆ วันร่างกายของเขาจะทำการสะสมไขมันเพิ่มเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 1.5 กก. ความยาวประมาณ 40 ซม. หรือขนาดประมาณหัวไชเท้า
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 31 : ลูกพัฒนาอวัยวะที่สำคัญ ๆ ได้สมบูรณ์แล้ว ในตอนนี้เขาจะมีน้ำหนักประมาณ 1.6 กก. ความยาวประมาณ 41 ซม. หรือขนาดประมาณผลมะละกอ
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 32 : ศีรษะของเขาจะปกคลุมไปด้วยเส้นผม และเล็บเท้าเองก็สามารถเห็นได้แล้ว ในตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 1.8 กก. มีความยาวประมาณ 43 ซม. ขนาดประมาณคะน้าใบหยัก
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 33 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 2 กก. ความยาวประมาณ 43 ซม. หรือประมาณผลสับปะรด และตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ลูกน้อยจะเริ่มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 225 กรัมต่อสัปดาห์ไปจนกว่าจะคลอด
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 34 : ในตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 2.1 กก. ความยาวประมาณ 45 ซม. หรือประมาณผลแคนตาลูป นิ้วมือของเขาพัฒนาไปจนถึงส่วนปลาย ในแต่ละวันเขายังผลิตปัสสาวะกว่า 500 มล. และเริ่มมีอุจจาระแรกอย่างขี้เทา (meconium) แล้ว
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 35 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 2.3 กก. ความยาวประมาณ 46 ซม. หรือขนาดประมาณลูกมะพร้าว ลูกได้พัฒนากระดูกและอวัยวะอื่น ๆ จนจะสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงปอดที่จะยังพัฒนาต่อ
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 36 : เมื่อสัปดาห์นี้สิ้นสุด การตั้งครรภ์นั้นได้ถือว่าดำเนินการไปถึงระยะใกล้คลอดแล้ว พัฒนาการของลูกจะเหลือเพียงการสะสมไขมันในร่างกายเท่านั้น ในตอนนี้เขามีน้ำหนักประมาณ 2.4 กก. ความยาวประมาณ 47 ซม. หรือขนาดประมาณหน่อไม้
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 37 : ในสัปดาห์นี้ลูกจะมีน้ำหนักประมาณ 2.6 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 48 เซนติเมตร ขนาดประมาณลูกทุเรียน ช่วงนี้ถือว่าเจ้าตัวน้อยใกล้ครบกำหนดคลอดแล้ว เนื่องจากร่างกายของเขาได้พัฒนาเต็มที่ พร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่นอกครรภ์คุณแม่แล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกว่าเขาจะอยากออกมาเมื่อไรเท่านั้น
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 38 : ศีรษะและท้องของลูกเริ่มมีขนาดใกล้เคียงกัน นิ้วเท้าเองก็ได้พัฒนาไปจนถึงส่วนปลายแล้ว และเส้นขนลานูโกส่วนใหญ่ก็หลุดออกไปแล้วเช่นกัน ในตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 2.8 กก.ความยาวประมาณ 49 ซม.หรือขนาดประมาณฟักทอง
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 39 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ขนาดประมาณลูกแตงโมผลเล็ก คุณแม่อาจมีตกขาวปริมาณมากขึ้น และจากการที่ปากมดลูกกำลังขยายตัวเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด อาจทำให้มีเลือดปนออกมากับตกขาวด้วย
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 40 : ตอนนี้ลูกมีน้ำหนักประมาณ 3-3.5 กก. ความยาวประมาณ 50 ซม. หรือประมาณผลขนุน
น้ำหนักทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 41 : จนถึงสัปดาห์นี้ หากคุณแม่ยังไม่คลอดนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความผิดปกติใด ๆ และแน่นอนว่าลูกกำลังมีความสุขกับการอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ช่วงนี้คุณแม่อาจเจ็บท้องคลอดได้ทุกเมื่อ โดยอาจช่วยกระตุ้นการเจ็บท้องคลอดได้โดยการออกไปเดินเล่นให้นานขึ้น ตอนนี้ร่างกายของลูกได้พัฒนาจนสมบูรณ์แล้วและกำลังเพิ่มน้ำหนักตัวไปเรื่อย ๆ โดยทางการแพทย์เรียกทารกที่ยังไม่คลอดในสัปดาห์นี้ว่า “ทารกที่คลอดช้ากว่ากำหนด”
เด็กทารกแรกเกิดควรมีน้ำหนักเท่าไร?
ค่าเฉลี่ยน้ำหนักของเด็กทารกที่คลอดตามกำหนดอยู่ที่ 2.5-4.5 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น เชื้อชาติและขนาดตัวของคุณแม่ เด็กทารกจะมีน้ำหนักลดลงประมาณ 225 กรัมในช่วง 5 วันแรกหลังคลอด จากนั้นน้ำหนักจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นภายใน 10 วันหลังคลอด ในช่วงเดือนแรก เด็กทารกที่สุขภาพดีจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 100-225 กรัมต่อสัปดาห์ เด็กทารกท้องแรกมักจะตัวเล็กกว่าน้อง และเด็กทารกเพศชายมักตัวใหญ่กว่าเพศหญิงเล็กน้อย
บทความและข้อมูลทั้งหมดของเราได้รับการรับรองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
พญ.วรรวดี ทรัพย์มี ปัญญากาศ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- อาการคนท้องแต่ละสัปดาห์
- พัฒนาการของลูกเมื่อเข้าสู่ระยะทารกในครรภ์
- น้ำหนักตัวควรจะเพิ่มขึ้นเท่าไรในระหว่างการตั้งครรภ์
- น้ำหนักทารกแรกเกิด
- วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น ทำอย่างไรให้ลูกน้อยขยับตัว
- ลูกอยู่ตรงไหนในท้องคุณแม่ วิธีคลำหาตำแหน่งลูก
รับรองโดย:
พญ.วรรวดี ทรัพย์มี ปัญญากาศ (สูตินรีแพทย์) (10 ธันวาคม 2021)
ที่มา:
- คู่มือมะลิ “อาการคนท้องแต่ละสัปดาห์”
- น้ำหนักที่เหมาะสมระหว่างตั้งครรภ์, dmthai
- Ways to Calculate BMI, Leaf Group
- Keith Moore, The Developing Human: Clinically Oriented Embryology, 10th Edition, 2016
- You and your baby at 22 Weeks Pregnant, National Health Service
- น้ำหนักตัวคนท้อง แต่ละเดือนน้ำหนักควรเพิ่มขึ้นกี่กิโลถึงจะดี, theasianparent
- Women’s and Children’s Health Network
- Pregnancy Birth & Baby